รกเกาะต่ำ
ภาวะที่รกเกาะต่ำลงมาถึงบริเวณส่วนล่างของผนังมดลูก (Lower uterine segment)
สาเหตุ
- ผนังมดลูกมีแผลเป็น ซึ่งเกิดจากรกเกาะต่ำในครรภ์ก่อน , การแท้ง , การผ่าตัดคลอด
- เลือดไปเลี้ยงผนังมดลูกไม่ดี เช่น ผลจากยารักษาโรคความดันโลหิตสูง หรือเบาหวาน , เนื้องอกในมดลูก , การสูบบุหรี่ (มากกว่า 20 มวนต่อวัน) หรือมารดาอายุมากกว่า 35 ปี
- รกมีขนาดใหญ่ เช่น การตั้งครรภ์แฝด อาจทำให้มีรกมากกว่า 1 อัน ซึ่งมีภาวะเสี่ยงสูงในการเกิดรกเกาะต่ำ
- รกผิดปกติ ได้แก่ รกชนิดแผ่นใหญ่กว่าปกติหรือบางกว่าปกติ
ผลกระทบต่อมารดาและทารก
ผลต่อมารดาตั้งครรภ์
- ตกเลือดในระยะตั้งครรภ์ , ระยะคลอด และระยะหลังคลอด
- ช็อคจากการเสียเลือด
- คลอดก่อนกำหนด
- น้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
- ติดเชื้อหลังคลอด เนื่องจากมีเส้นเลือดแตกใกล้ปากมดลูก จึงทำให้ติดเชื้อง่าย
ผลต่อทารกในครรภ์
- พบอัตราตายทารกปริกำเนิด ประมาณร้อยละ 20 โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการคลอดก่อนกำหนด
- น้ำหนักตัวน้อยกว่าอายุครรภ์ การเจริญเติบโตช้าในครรภ์
- เกิดพิการแต่กำเนิด เช่น ระบบประสาทส่วนกลาง , โรคหัวใจแต่กำเนิด , โรคเกี่ยวกับระบบหายใจ , ระบบทางเดินอาหาร
อาการ
มีเลือดออกจากโพรงมดลูก
มีเลือดออกเปื้อนที่นนอน
อาการแสดง
ทารกไม่สามารถกลับศีรษะเป็นส่วนนำได้ มักพบทารกอยู่ในท่าผิดปกติ
กาาพยาบาล
1.ประเมินสัญญาณชีพทุก 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการเปลี่ยนแปลง ถ้าผิดปกติรายงานแพทย์เพื่อการรักษาทันที
2.ให้มารดาใส่ผ้าอนามัย สังเกตและบันทึกลักษณะจำนวนเลือดที่ออกทางช่องคลอดเพื่อประเมินการเสียเลือด
3.เตรียมมารดาเพื่อรับการตรวจและผ่าตัดให้พร้อมในกรณีเลือดออกมาก เช่น เตรียมตรวจด้วยคลื่นความถี่สูง การเตรียมตรวจภายใน หรือการผ่าตัดคลอดเด็กออกทางหน้าท้อง
4.สังเกตและบันทึกการหดรัดตัวของมดลูกทุก 15 นาที เนื่องจากการหดรัดตัวของมดลูกจะทำให้เลือดออกมากขึ้น
5.สังเกตและประเมินอาการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ได้แก่ภาวะซีด กระสับกระส่าย เหงื่อออก ตัวเย็นใจสั่น พักไม่ได้ และอาการเจ็บปวด
การดูแลรักษา
การรักษาแบบประคับประคอง
การทำให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดลง
รับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด
เตรียมเลือดเพื่อผ่าตัดในกรณีฉุกดฉิน
ห้ามตรวจภายในหรือตรวจทางทวารหนัก
การให้สารน้ำเกลือ และการให้เลือดเพื่อรักษา
ติดตามอัตราการเจริญเติบโตของทารก ปริมานน้ำคร่ำและการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของรก
ทำในระยะอายุครรภ์ครบกำหนด
ทำในรายที่มารดามีเลือดออกมากจนอาจเป็นอันตรายต่อมารดา