Oligohydramniosภาวะน้ำคร่ำน้อย

ความหมาย

ภาวะตั้งครรภ์ที่มีจำนวนน้ำคร่ำน้อยกว่าปกติ ในบางรายปริมาณน้ำคร่ำมีน้อยจากค่าปกติมากอาจจะลดลงจนเหลือเพียง 2-3 มล.ของน้ำคร่ำที่ข้นเหนียวทั่ว ๆ ไปภาวะนี้มักมีน้ำคร่ำประมาณ 100-300 มล.

เกิดภาวะ pulmonary hypoplasia

มีการกดต่อผนังทรวงอก โดยมดลูกที่มีน้ำคร่ำน้อย ซึ่งจะขัดขวางการขยายตัวของปอด และผนังทรวงอก

ขาดน้ำที่จะหายใจเข้าไปใน terminal airway ของปอด และผลตามมาคือการหยุดการเติบโตของปอด

อาจจะเกิดจากความผิดปกติของปอดเอง จะเห็นว่าปริมาณน้ำคร่ำที่หายใจเข้าในตัวทารกที่ปกติ มีบทบาทสำคัญในการทำให้ปอดขยายตัว แล้วส่งผลให้มีการเจริญเติบโตของปอดเป็นปกติสาเหตุยังไม่เป็นที่ทราบชัดเจน อาจเกิดจาก

ทารกพิการโดยกำเนิด

การอุดตันของระบบทางเดินปัสสาวะของทารก

ภาวะไตฝ่อทั้งสองข้าง (renal agenesis)

ทารกมีความผิดปกติของโครโมโซม เช่น trisomy 13 triploidy

รกเสื่อมสภาพ (utero-placental insufficiency; UPI)

ภาวะทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์

มารดาเป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน preeclampsia

ครรภ์เกินกำหนด

รกลอกตัวก่อนกำหนด

Twin-twin transfusion syndrome

การรั่วของถุงน้ำคร่ำเป็นเวลานาน ๆ

ภาวะเบาจืด (diabetes insipidus) ของมารดาก็อาจเป็นสาเหตุของน้ำคร่ำน้อยได้ด้วย

มารดาได้รับยาบางอย่าง เช่น indomethacin, angiotensin-converting enzyme inhibitors

การรักษา

การรักษาขึ้นกับสาเหตุ รายที่สัมพันธ์กับความพิการรุนแรงมักจะแนะนำให้เลือกยุติการตั้งครรภ์ รายที่มีภาวะทารกโตช้าในครรภ์ที่เกิดจาก UPI มักจะเน้นการตรวจสุขภาพทารกในครรภ์และให้คลอดในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยทั่วไปไม่มีการรักษาในระยะยาว แต่สามารถเพิ่มปริมาณน้ำคร่ำได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ มีรายงานการให้ พบว่าสามารถเพิ่มปริมาณน้ำคร่ำได้

การวินิจฉัยและการตรวจค้น

การวินิจฉัยจากประวัติและตรวจร่างกาย

การวินิจฉัยด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง

มีน้ำเดินทางช่องคลอด

มดลูกไม่ค่อยโตขึ้น

ความสูงของมดลูกน้อยกว่าอายุครรภ์

การตรวจทางหน้าท้องจะคลำได้ส่วนของทารกได้ง่าย

ไม่สามารถทำ ballottement ของศีรษะทารกในครรภ์ได้

สงสัยถุงน้ำคร่ำแตกอาจต้องตรวจภายใน

ทดสอบด้วย nitrazine หรือ fern test อาจจะตรวจพบโดยบังเอิญขณะคลอดเมื่อมีการเจาะถุงน้ำหรือถุงน้ำคร่ำแตก แล้วมีน้ำคร่ำไหลเพียงเล็กน้อย

เมื่อคลอดทารกแล้วก็ไม่มีน้ำคร่ำไหลออกมาเหมือนปกติ

วัดแอ่งลึกที่สุดของน้ำคร่ำ(Single deepest pocket, SDP) ได้ 2 ซม. หรือน้อยกว่า

วัดดัชนีน้ำคร่ำ (Amniotic fluid index, AFI)ได้ 5-8 ซม. หรือน้อยกว่า

• วัดแอ่งลึกที่สุดของน้ำคร่ำแบ่งเป็น รุนแรงน้อย คือวัดได้ 1-2 ซม. รุนแรงมาก วัดได้ น้อยกว่า 1 ซม.

• วัดดัชนีน้ำคร่ำ แบ่งเป็น ก้ำกึ่งหรือน้อยกว่าปกติ คือวัดได้ 5-8 ซม. น้ำคร่ำน้อยวัดได้น้อยกว่า 5 ซม.

ในกรณีที่อายุครรภ์น้อยกว่า 10 สัปดาห์ ถ้าขนาดของถุงการตั้งครรภ์ (mean gestational sac) กับขนาดของทารกโดยวัดจาก crown-rump length (CRL) ต่างกันน้อยกว่า 5 หรือ สัดส่วนระหว่าง mean gestational sac ต่อ crown-rump length ผิดไปจากค่าสัดส่วนตามเกณฑ์ในแต่ละอายุครรภ์ ให้ถือว่ามีภาวะน้ำคร่ำน้อย

ตรวจด้วยอัลตราซาวด์

ตรวจโครโมโซมด้วยในรายที่ไม่ทราบสาเหตุ

การเติมน้ำ (amnioinfusion) อาจช่วยให้การตรวจอัลตราซาวด์มองเห็นภาพดีขึ้น ช่วยวินิจฉัยความผิดปกติที่ซ่อนเร้นในบางรายได้ และช่วยในการวินิจฉัยถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนดได้

การดูแลในกรณีอายุครรภ์น้อย

ไตรมาสแรก

ควรให้คำแนะนำและเฝ้าระวังภาวะแท้ง

ควรให้คำแนะนำและเฝ้าระวังภาวะแท้ง

ไตรมาสที่สอง

ควรให้การดูแลรักษาตามสาเหตุ

ตรวจติดตามด้วยอัลตราซาวด์

เฝ้าระวังภาวะทารกโตช้าในครรภ์ที่เป็นภาวะแทรกซ้อนตามมา

ถ้าน้ำคร่ำน้อย

จะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนสูง

skeletal deformations contractures

pulmonary hypoplasia

อาจพิจารณาให้ทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์

ให้การรักษาเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำคร่ำ

• การเติมน้ำคร่ำ (amnioinfusion)(

• การดื่มน้ำมาก ๆ ทำให้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และชั่วคราว

การให้สารขับปัสสาวะ (1-de amino vasopressin) ร่วมกับการดื่มน้ำปริมาณมากก็เพิ่มปริมาณน้ำคร่ำได้เล็กน้อย ยังไม่มีการนำมาใช้ในทางคลินิก

• สารเคลือบ (sealants) เช่น fibrin glue, gelatin sponge, amnio patch อาจใช้อุดรูรั่วจากภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด แต่ยังอยู่ระหว่างการศึกษา

ตรวจเช็คดูภาวะความผิดปกติแต่กำเนิดของทารกในครรภ์

ตรวจอัลตราซาวด์จะช่วยให้การพยากรณ์โรคดีขึ้น

รักษาภายในครรภ์โดยการใส่สาย (shunt) เข้าไปในกระเพาะปัสสาวะของทารกในกรณีที่การอุดตันอยู่ต่ำบริเวณท่อปัสสาวะ เชื่อว่าจะช่วยลดภาวะ hydronephrosis และทำให้ไตทารกไม่เสียมาก

ไตมาสที่สาม

ควรเฝ้าตรวจติดตามสุขภาพทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด

โดยทำ non stress test (NST) และตรวจวัดดัชนีปริมาณน้ำคร่ำ

ตรวจ biophysical profile หนึ่งถึงสองครั้งต่อสัปดาห์จนคลอด

การตรวจคลื่นเสียง Doppler จะมีประโยชน์ในรายที่น้ำคร่ำน้อยโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือในภาวะทารกโตช้าในครรภ์