Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กาแฟ (พันธุ์ของกาแฟ (กาแฟพันธุ์โรบัสต้า (Robusta)
ปลูกในพื้นที่สูงกว่าระด…
กาแฟ
พิมสารินทร์
โทษของกาแฟ
1.เพิ่มระดับความดันโลหิตให้สูงมากขึ้น
การศึกษาวิจัยได้ค้นพบว่า การดื่มกาแฟจะทำให้ระดับความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นนานถึง 12 ชั่วโมง
เพราะฉะนั้น ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง จึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในตอนเครียดๆ หรือช่วงที่ร่างกายมีภาวะความกดดันมากเป็นพิเศษ
2.คาเฟอีนจะมีผลต่อการดูดซึมแร่ธาตุ
คาเฟอีนจากในกาแฟจะมีผลขัดขวางการดูดซึมของแร่ธาตุบางชนิด เช่น แคลเซียม สังกะสีและเหล็ก
ผู้ที่ต้องการให้ร่างกายดูดซึมสารอาหาร
3.ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารหนักขึ้น
โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหาร ควรดื่มกาแฟอย่างระมัดระวังจะดีที่สุด เพราะกาแฟจะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำย่อยออกมามากขึ้น
4.เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุน
เนื่องจากคาเฟอีนมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการขับปัสสาวะ หากดื่มกาแฟติดต่อกันเป็นเวลานาน ย่อมทำให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียม
-
-
กัลยา
การคั่วเมล็ดกาแฟ
-
วิธีคั่วกาแฟ
-
-
3.รอจนกระทั่งเมล็ดปริแตกเกิดเสียงดังที่เรียก crack ครั้งที่ 1 แล้วจึงลดไฟลง
คั่วต่อไปจนเมล็ดปริแตกเกิดเสียงดังเป็นครั้งที่สอง
-
-
ความลับของการคั่วการแฟ
ความลับ = ?
ความร้อนในเตาคั่วทำให้เมล็ดกาแฟดิบกลายเป็นเมล็ดกาแฟสุกด้วยการเกิด Mailard reaction ทำให้เมล็ดเขียวกลายเป็นสีน้ำตาลขึ้น นอกจากนี้เมื่อคั่วจนน้ำที่อยู่ในเมล็ดกาแฟเดือดและระเหยออกทำให้เมล็ดกาแฟปริเกิดเสียงดังที่เรียก crack เป็นการเกิดปฎิกริยา Pyrolysis และทำให้เกิดปฎิกริยาเคมีต่างๆ มากมาย รสชาติกาแฟที่เราคุ้นเคยก็เกิดจากช่วงนี้นี่เอง ระยะเวลาในการคั่วจึงมีผลต่อสีและรสชาติของเมล็ดกาแฟโดยตรง (โอ้..เป็นวิชาการสักหน่อยนะครับข้อนี้)
ความร้อนของเตา หรือความร้อนตั้งต้นในการคั่วถือว่ามีความสำคัญ ถ้าสูงเกินไปเมล็ดจะไหม้ ถ้าต่ำไปเมล็ดกาแฟจะไม่สุก หรือสุกช้าทำให้ขม และไม่มีรสชาติ
ความแรงของลมร้อนที่ใช้คั่วจะทำให้เมล็ดสุกเร็วช้าต่างกัน
ชนิดของเตาคั่วมีผลกับรสชาติเสมอ
การตัดสินใจเร่งลดไฟ หรือเปิดปิดลมในการคั่วของคนคั่วในช่วงเวลาต่างๆ มีผลต่อรสชาติ
นั่นล่ะ ! ความลับ
-
-
พันธุ์ของกาแฟ
กาแฟพันธุ์โรบัสต้า (Robusta)
ปลูกในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่มากนัก ส่วนใหญ่ปลูกในประเทศแถบร้อนชื้น มีรสชาติเข้มข้น หอมฉุนกว่ากาแฟพันธุ์อาราบิก้า มีสัดส่วน ของผลผลิตกาแฟทั่วโลกถึง 25% กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า เป็นสายพันธุ์ที่มีความทนทานต้านทานโรคสูง ปลูกง่าย ให้ผลผลิตต่อไร่สูง การบำรุงรักษาทำได้ง่าย กาแฟสายพันธุ์นี้มีปริมาณของคาเฟอีนประมาณ 2% นิยมนำไปทำเป็นกาแฟผงหรือกาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee) รวมไปถึงการนำไปผสมกับสายพันธุ์อื่นเพื่อให้มีรสชาติ กลิ่น ที่แปลกไปจากเดิมหรือที่เรียกว่าเบลนด์กาแฟนั่นเอง
กาแฟพันธุ์อาราบิก้า(Arabica)
ถือเป็นที่สุดของกาแฟ เรียกว่าเป็นราชินีอยุ่บนยอดดอยได้เลยเพราะกาแฟพันธุ์อาราบิก้านี้ปลูกและดูแลรักษาค่อนข้างยากลำบากต้องปลูกในที่สูงและอุณหภูมิเหมาะสมจึงจะได้กาแฟรสดีไม่เพี้ยนไปจากพันธุ์ดั้งเดิม โดยความสูงต้องตั้งแต่ 1000 เมตรขึ้นไปจากระดับน้ำทะเลและมีความลาดเอียงของพื้นที่ปลูกไม่เกิน 30% อุณหภูมิที่พอเหมาะจะอยู่ที่ 15 - 25องศาเซลเซียส และมีความชื้นสัมพัทธ์มากกว่า 60%
-
กาแฟพันธุ์ไลเบริกา(Libelica)
เป็นพันธุ์กาแฟที่มาจากแถบแอฟริกา การปลูกและการดูแลรักษาทำได้ง่ายเหมือนโรบัสต้า แต่ราคาจะไม่ดีเท่าอาราบิก้า ผู้คนนิยมดื่มกาแฟ พันธุ์นี้น้อยกว่าสองพันธุ์แรก ส่วนมากจะนำกาแฟพันธุ์นี้ไปปรุงพิเศษหรือการผสมรวมกับกาแฟพันธุ์อื่นนั่นเอง เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นตามความต้องการดื่มของแต่ละคน
-
-