Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลทารกแรกเกิดที่มีอุณหภูมิกายต่า (ผลของการมีภาวะอุณหภูมิกายต่า…
การดูแลทารกแรกเกิดที่มีอุณหภูมิกายต่า
ระบบการปรับอุณหภูมิของร่างกาย
การถ่ายเทความร้อน (heat loss) เกิดขึ้นเมื่อร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป
การสร้างความร้อน (heat production)
กลไกการสูญเสียความร้อน
การพาความร้อน (Convection) เป็นการสูญเสียความร้อนจากผิวกายไปทางอากาศที่อยู่
รอบๆตัว ที่เย็นกว่า
การนาความร้อน (Conduction) เป็นการน่าส่งความร้อนจากวัตถุหนึ่งไปยังอีกวัตถุหนึ่งเป็นการสูญเสียความร้อนไปโดยที่ผิวกายสัมผัสโดยตรงกับสิ่งที่มีอุณหภูมิต่่ากว่า
การระเหย (evaporation) เป็นการสูญเสียความร้อนจากน้่าที่ระเหยไปทางผิวหนังไปสู่
สิ่งแวดล้อมในรูปของไอระเหย
การแผ่รังสี (radiation) เป็นการสูญเสียความร้อน โดยการแผ่กระจายคามร้อนจากทารกไปสู่
วัตถุรอบด้านที่เย็นกว่า โดยวัตถุนั้นไม่ได้สัมผัสกับทารกโดยต
การตอบสนองด้านสรีรวิทยาของทารกต่อความเย็น
เมื่อทารกกระทบความเย็น จะมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิกายกระตุ้นต่อมอดีนัลให้มีการหลั่งนอร์อีพิเนฟริน (norepinephrine) ท่าให้มีการเพิ่มปริมาณความร้อนด้วยการเก็บสะสมความร้อนเพิ่มมากขึ้นโดยการหดรัดตัวของหลอดเลือดส่วนปลาย
การสร้างความร้อนจากไขมันสีน้่าตาลเกิดหลังจากที่มีการหลั่งสารนอร์อิพิเนฟริน
ผลของการมีภาวะอุณหภูมิกายต่า
ระบบหายใจ
ทารกจะหายใจเร็วขึ้น
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
อัตราการเต้นของ
หัวใจจะลดลง
ระบบเลือด
เกร็ดเลือดต่่าลงและมีเลือดออกได้
ระบบประสาท
ทารกจะซึม ดูดนมช้า
ดูดนมน้อยลง
ระบบทางเดินปัสสาวะ
ปัสสาวะจะออกน้อยลง การซึมกลับของสารต่างๆในไตเป็นไปได้ไม่ดี
ระบบทางเดินอาหาร
การเคลื่อนไหวของล่าไส้ลดลงท่าให้มีท้องอืด อาเจียนและปวดท้อง
ระบบการเผาพลาญ
เกิดภาวะน้่าตาลในเลือดต่่าได้ง่าย
เกิดการคลั่งกรดแลกติก
เกิดภาวะกรดจากการเผาพลาญ
การเจริญเติบโต
ทารกจะมีน้่าหนักขึ้นช้าหรือไม่ขึ้น หรืออาจลดลง
ระบบผิวหนัง
ใบหน้าอาจจะแดงจากการที่ฮีโมโกบินไม่ปล่อยออกซิเจนให้เนื้อเยื่อ
ซีด เขียว
คล้่า คล่าผิวหนังจะเย็นกว่าปกติ
ระบบภูมิคุ้มกัน
ความต้านทานโรคต่่าลง
ภาวะอุณหภูมิกายสูง
ภาวะที่อุณหภูมิกายสูงเกิน 37.5 องศาเซนเซียส
อาจเกิดจากการติดเชื้อ ร่างกาขาดน้่า หรืออุณหภูมิในสิ่งแวดล้อมสูงเกินไป หรืออาจเกิดจากการที่มีเลือดอกในสมอง
ท่าให้มีการใช้ออกซิเจนมากขึ้น ทารกจะมีการขับความร้อนโดยการระเหย พบเหงื่อออก หลอดเลือดใต้ผิวหนังขยาย ท่าให้ทารกมีผิวแดงร้อน (Flushing)
การประเมินภาวะอุณหภูมิกายบกพร่อง
ใช้ปรอทวัดไข้ทางรักแร้ส่าหรับทารกแรกเกิดก่อนก่าหนดคือ 5 นาที และ 8 นาที ส่าหรับทารกแรกเกิดครบก่าหนด
การวัดอุณหภูมิทางทวารหนักใช้ เวลานาน 3 นาที ทั้งทารกเกิดก่อนก่าหนดและทารกเกิดครบก่าหนด
อุณหภูมิกายปกติควรอยู่ระหว่าง 36.5-37.5 องศาเซลเซียส
การพยาบาล
วัดสัญญาณชีพทุก 15 นาทีใน 1 ชั่วโมงแรก และทุก 30 นาที ในชั่วโมงที่ 2
ดูแลให้นอนบนอกมารดาและให้มารดาโอบกอดทารก
ห่อตัวทารกด้วยผ้าอุ่นผืนที่หนึ่งและรีบเช็ดตัวให้แห้ง แล้วห่อด้วยผ้า
อุ่นผืนที่สอง โดยท่าภายใต้เครื่องให้ความอบอุ่นแผ่รังสี (Radian warmer)
ดูแลเรื่องการขับถ่าย และเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เมื่อมีการเปียกชื้น
จัดเตรียมสภาพแวดล้อมภายในห้องคลอด อุณหภูมิภายในห้องคลอดขณะที่ทารกเกิดไม่ควรต่่า
กว่า 26 องสาเซลเซียส
กระตุ้นเรื่องการดูดนมมารดทุก 2-3 ชั่วโมง
การสูญเสียความร้อนในทารกแรกเกิด
พื้นที่ผิวกายกว้างมากเมื่อเทียบสัดส่วนกับน้าหนักตัว
มีไขมันสีน้าตาลซึ่งเป็นแหล่งสะสมพลังงานน้อย
การงอตัวของทารก ทารกเกิดก่อนกาหนดมักอยู่ในท่าเหยียด ไม่ค่อยงอตัว ท่าให้บริเวณพื้นที่
ผิวกายสัมผัสกับอากาศภายนอกเพิ่มมากขึ้น มีการระบายความร้อนได้มาก
ศูนย์ควบคุมความร้อนยังเจริญไม่เต็มที่
ต่อมเหงื่อยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่