Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
คดีโรงงานฝังกลบขยะ เบตเตอ เวอร์กรีน (กฎหมาย/นโยบายที่เกี่ยวข้อง…
คดีโรงงานฝังกลบขยะ เบตเตอ เวอร์กรีน
กฎหมาย/นโยบายที่เกี่ยวข้อง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.
๒๕๔๐
พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.๒๕๓๕ มาตรา ๓๙
กฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ.๒๕๓๕) ออกตามความใน พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ.๒๕๓๕ ข้อ ๒ และ ข้อ ๕
พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
พ.ศ.๒๕๓๙ มาตรา ๔๓
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่
๑ (พ.ศ.๒๕๕๑) ออกตามความใน พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ.๒๕๓๕
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ศาลปกครองกลาง
ศาลชั้นต้น
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
นายยงยศหรือพศ อดิเรกสาร ที่ ๑ กับพวกรวม ๑๒๖ คน (ผู้ฟ้องคดี)
อุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี ที่ ๑ กับพวกรวม ๔ คน (ผู้ถูกฟ้องคดี)
บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (ผู้ร้องสอด)
สาเหตุของคดี
ชาวบ้านตำบลห้วยแห้ง ตำบลหนองปลาไหล และตำบลกุดนกเปล้า อำเภอแก่งคอย และอำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี เป็นผู้ฟ้องคดีเรื่องมลพิษที่ปล่อยออกมา และหน่วยงานของรัฐออกใบอนุญาตกิจการฝังกลบสิ่งปฏิกูลฯ และละเลยต่อหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สถานที่ตั้ง
โรงงานฝังกลบกากขยะอุตสาหกรรมที่มีอันตราย ตำบลห้วยแห้ง อ. เมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี
ผลกระทบ
ชาวบ้านเกิดความเดือดร้อนเสียหายโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ในพื้นที่ใกล้หมู่บ้าน เนื่องจากสารพิษต่างๆ ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้าน
การฟ้องร้อง
ศาลปกครองกลาง พิพากษาว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และที่ ๒ มิได้ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติแต่อย่างใด ยกฟ้อง ส่วนคำสั่งของศาลเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาเมื่องวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๔๗ นั้นให้สิ้นผลลงนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
นอกจากนี้ การออกใบอนุญาตของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๔๐ กฎหมายว่าด้วยโรงงาน ก็มิได้กำหนดให้ต้องได้รับความเห็นชอบจากองค์การบริหารส่วนตำบลก่อนแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่ออกใบอนุญาตโดยระบุสถานที่ตั้งโรงงานผิดพลาด ก็เป็นความผิดเพียงเล็กน้อยซึ่งสามารถ
แก้ไขปัญหาให้ถูกต้องได้ตามมาตรา ๔๓ แห่ง พ.ร.บ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ดังนั้น การออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองจึงชอบด้วยกฎหมายและจากการที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสองได้ร้องเรียนต่อหน่วยงานต่าง ๆ จนมีการแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบการดำเนินกิจการของผู้ร้องสอด แต่ก็ยังไม่มีการรายงานที่สมบูรณ์พอที่จะสรุปได้ว่ามีการแพร่กระจายมลพิษ จากบ่อฝังกลบออกสู่ภายนอก จึงไม่มีเหตุที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ จะต้องออกคำสั่งให้ผู้ร้องสอดหยุดการประกอบกิจการโรงงานหรือปิดโรงงานตาม มาตรา ๓๙ แห่ง พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ.๒๕๓๕ ประกอบกับเมื่อคณะทำงานได้ขอให้ผู้ร้องสอดแก้ไขข้อบกพร่อง ซึ่งผู้ร้องสอดก็ได้ดำเนินการตามคำสั่งทุกครั้ง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และที่ ๒ จึงมิได้ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้
ต้องปฏิบัติแต่อย่างใด
บทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โรงงานควรศึกษาเกี่ยวกับสถานที่ตั้งและการปล่อยมลพิษที่ไม่เดือดร้อนต่อชาวบ้าน และดำเนินการให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
ควรออกแบกฎหมายให้ครอบคลุมเพื่อคำนึงถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนก่อนที่จะสร้างโรงงาน