Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (เทคโนโลยีสารสนเทศ (ระบบสนับสนุนการตั…
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ไวรัสคอมพิวเตอร์
ความหมายของไวรัสคอมพิวเตอร์
โปรแกรมชนิดหนึ่งซึ่งถูกเขียนขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายที่สร้างผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ ให้กับระบบคอมพิวเตอร์ที่เรียกใช้งานโปรแกรมนี้ ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับระบบในรูปแบบต่างๆ
อาการของเครื่องคอมพิวเตอร์เมื่อมีไวรัส
คอมพิวเตอร์หยุดทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ
ไฟล์ในแผ่นดิสก์ หรือฮาร์ดดิสก์ถูกเปลี่ยนเป็นขยะหรือตัวอักษรประหลาดๆ
เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วบูตเครื่องจากฮาร์ดดิสก์ไม่ได้
การทำงานของคอมพิวเตอร์ช้ากว่าปกติ
ช่องทางในการแพร่กระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์
ไฟล์ไวรัส เป็นไวรัสที่เก็บตัวเองอยู่ในแฟ้มข้อมูล ได้แก่ไฟล์ประเภท .EXE .COM .DLL เป็นต้น
บูตเซกเตอร์ไวรัส เป็นไวรัสที่เก็บตัวเองอยู่ในบูตเซกเตอร์ของดิสก์ และจะฝังตัวเข้าแทนที่ระบบปฏิบัติการ
หนอนคอมพิวเตอร์ เป็นไวรัสที่ทำงานอยู่บนหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์และจะทำการสร้างตัวเองส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆที่เชื่อมต่อกันอยู่บนระบบเครือข่าย
มาโครไวรัส ไวรัสที่เขียนด้วยภาษามาโครของซอฟต์แวร์ประยุกต์ตัวใดตัวหนึ่ง และจะแทรกตัวเองอยู่ในแฟ้มข้อมูลของซอฟต์แวร์ตัวนั้น
ม้าโทรจัน เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมา ให้ทำตัวเหมือนว่าเป็นโปรแกรมธรรมดาทั่วๆ ไป แต่เมื่อถูกเรียกขึ้นมาแล้ว ก็จะเริ่มทำลายตามที่โปรแกรมได้กำหนดไว้ ซึ่งโปรแกรมตรวจสอบไวรัสธรรมดาจะตรวจจับได้ยาก
ช่องทางในการแพร่กระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์
หน่วยความจำสำรอง โดยผ่านการใช้งานจาก Handy Drive หรือ
Flash Drive , แผ่นฟลอปปีดิสก์, ม้วนเทป, แผ่นซีดี
ที่มีโปรแกรมไวรัสอยู่
ระบบเครือข่าย โดยการรับหรือคัดลอกแฟ้มผ่านระบบเครือข่าย รวมทั้งการรับจดหมายอีเมล์ที่มีแฟ้มไวรัสแนบมาด้วย
วิธีการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์
สังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
ควรหลีกเลี่ยงการเปิดเมล์ที่เราไม่รู้จัก หรือไม่แน่ใจ
ปรับปรุง หรืออัปเดทโปรแกรมกำจัดไวรัส
ติดตั้งโปรแกรมกำจัดไวรัส และตรวจสอบเป็นประจำ
ให้ทำการสำรองข้อมูล ที่สำคัญไว้
การแก้ไขปัญหาเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ติดไวรัส
ทำการถ่ายเทข้อมูล หรือกู้ข้อมูลเท่าที่จะกู้ได้
ปิดเครื่อง เมื่อพบไวรัสในเครื่องคอมพิวเตอร์และให้ทำการบันทึกข้อมูลที่กำลังทำงานอยู่ แล้วออกจากระบบงาน เพราะไวรัสจะแพร่กระจายเข้าสู่หน่วยความจำและโปรแกรมต่างๆได้
ตรวจสอบโดยการสแกนไวรัสจากอุปกรณ์สำรองข้อมูลทุกครั้งก่อนใช้งาน เช่น แผ่น Floppy Disk, Flash Drive, แผ่น CD เป็นต้น
หาโปรแกรมที่สามารถตรวจสอบ และกำจัดไวรัสได้
โปรแกรมตรวจสอบและกำจัดไวรัส
เทคโนโลยีสารสนเทศ
สารสนเทศ (Information)
ข่าวสารที่ได้จากการนำ ข้อมูลดิบ (Raw data) มาคำนวณทางสถิติหรือประมวลผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งข่าวสารที่ได้ออกมานั้นจะอยู่ในรูปที่สามารถนำไปใช้งานได้ทันที
เทคโนโลยีสารสนเทศ
กระบวนการต่างๆ และระบบงานที่ช่วยให้ได้สารสนเทศที่ต้องการ โดยจะรวมถึง เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โทรคมนาคม
กระบวนการ (ในการนำเครื่องมือ ใช้งาน รวบรวม จัดเก็บ ประมวลผล เป็นสารสนเทศในรูปแบบต่าง ๆ )
คุณสมบัติของสารสนเทศที่ดี
สะดวก รวดเร็ว ทันต่อการใช้งาน
เป็นระบบต่อเนื่องในการนำมาใช้งาน
มีความกะทัดรัด ปริมาณพอเพียง
เชื่อถือได้
มีความถูกต้องชัดเจน
กระบวนการของระบบสารสนเทศ
ขั้นรายงาน
ขั้นเผยแพร่
ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
ขั้นนำไปใช้
ขั้นเก็บข้อมูล
ระบบประมวลผลรายการ
มีการใช้งานแยกจากกันในแต่ละฝ่าย
ไม่ตอบสนองทันทีทันใด ต้องรอให้ถึงเวลาสรุป
จะให้สารสนเทศสำหรับระดับปฏิบัติการเท่านั้น
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
สร้างสารสนเทศสำหรับผู้บริหารทั้งระดับกลาง และระดับสูง ช่วยในการ ควบคุม/ตรวจสอบการดำเนินงาน วางแผน ตัดสินใจ
ข้อมูลอาจมาจากฐานข้อมูลของระบบประมวลผลธุรกรรม มาสรุป เปรียบเทียบ ทำสถิติ วิเคราะห์ เป็นต้น
ผู้บริหารเรียกใช้สารสนเทศประกอบการตัดสินใจได้ดีกว่า ระบบ TPS
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
ช่วยให้การตัดสินใจของผู้บริหารเป็นไปได้อย่างสะดวก และง่ายต่อการเรียนรู้ และการใช้งาน
สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
มีข้อมูลและแบบจำลองสำหรับสนับสนุนการตัดสินใจที่เหมาะสมและสอดคล้องกับลักษณะของปัญหา
มีความยืดหยุ่นที่จะสนองความต้องการที่
เปลี่ยนแปลงไป
เป็นแผนยุทธศาสตร์ที่กำหนดทิศทาง และวางแผนในอนาคต
เพื่อกำหนดเป้าหมาย นโยบาย และวัตถุประสงค์ขององค์การ
ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง
จุดเด่นของระบบคือการใช้งานไม่จำเป็นต้องมีค
วามรู้เรื่องคอมพิวเตอร์
นำข้อมูลจากภายในองค์กร และจากภายนอก มา
จัดทำข้อสรุป
เรียกใช้ได้ง่าย รวดเร็ว ดูเข้าใจง่าย
ตัวอย่างของรายงาน เช่น รายงานเกี่ยวกับการเงิน
และสถานภาพทางธุรกิจ ของบริษัท
ระบบผู้เชี่ยวชาญ
เกี่ยวข้องกับการจัดการ ความรู้ (Knowledge)
มากกว่าสารสนเทศ
ใช้หลักการทำงานด้วย ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เช่น Neural Network
ช่วยลดการพึ่งพาบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ตัวอย่างของ (Expert Systems) ที่นำไปใช้ในงานด้านต่างๆ
1) ด้านการแพทย์ : การให้คำแนะนำแก่หมอในการสั่งยาปฏิชีวนะให้คนไข้ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ หลายประการ เช่น ประวัติการเจ็บป่วยของคนไข้ แหล่งติดเชื้อ ราคาของยา
2) ด้านการผลิต : การให้คำแนะนำแก่โรงงานในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ชิ้นส่วนเครื่องบิน
3) ด้านธรณีวิทยา : ให้คำแนะนำแก่นักธรณีวิทยาในการวิเคราะห์ดินและน้ำมัน เพื่อพิจารณาในการขุดเจาะน้ำมัน
4) ด้านกระบวนการผลิต : ให้คำแนะนำในการกำหนดตารางเวลาในกระบวนการผลิต (Expert Systems Scheduling) ซึ่งทำให้บริษัทสามารถปรับตารางเวลาการการผลิต ให้สอดคล้องกับความต้องการในการเปลี่ยนแปลงการผลิตหรือเงื่อนไขของโรงงานที่เปลี่ยนไป อย่างรวดเร็ว
5) ด้านกระบวนการทำงานของบริษัทบัตรเครดิต : ใช้ ES ช่วยในกระบวนการทำงานตั้งแต่การประมวลการสมัครของลูกค้า การอนุมัติเครดิต การรวมบัญชีที่ค้างชำระเกินกำหนด
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ และขบวนการทางธุรกิจ
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการเงิน
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลิต
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการตลาด
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการบัญชี
ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลกระทบในทางบวก
ช่วยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์
ช่วยทำให้การผลิตในอุตสาหกรรมดีขึ้น
ช่วยส่งเสริมการค้นคว้าวิจัยให้มีความสะดวก
ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์
เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง
ช่วยให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน
ผลกระทบในทางลบ
ทำให้เกิดอาชญากรรม
ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย
ทำให้เกิดความวิตกกังวล
ทำให้เกิดการเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ
ทำให้มีการพัฒนาอาวุธที่มีอำนาจทำลายสูง
ทำให้ข้อมูลหรือโปรแกรมถูกทำลายได้