Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
คุณยายอี๊ด (กาย (เพศหญิง อายุ 73 ปี รูปร่างท้วม ผิวขาวตกกระ ส่วนสูง 149…
คุณยายอี๊ด
กาย
เพศหญิง อายุ 73 ปี รูปร่างท้วม ผิวขาวตกกระ ส่วนสูง 149 เซนติเมตร น้ำหนัก 60 กิโลกรัม BMI เท่ากับ 27.03 เเปลผล นำ้หนักเกณฑ์อ้วนระดับ 2
กรณีศึกษาเล่าว่าเคยสังเกตตัวเองคลำพบก้อนบริเวณท้องข้างขวา รู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ที่ท้องจึงไปตรวจที่ รพ.พระพุทธบาท แพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นว่าเป็นตับโตและเข้ารับการรักษาที่ รพ.พญาไท2 แพทย์จึงแนะนำให้ทานยาตามที่แพทย์สั่ง
กรณีศึกษาเล่าว่าเคยได้รับการผ่าตัดตาต้อกระจกโดยผ่าข้างซ้ายก่อน 1 ปี จึงไปผ่าตัดตาข้างขวา ปัจจุบันมีโรคประจำตัว คือ โรคเบาหวาน โรคความดันสูง โรคพากินสัน
กรณีศึกษาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปี พ.ศ.2537 เคยล้มศรีษะกระแทกเก้าอี้ไม้ หมดสติชั่วครู่ พอรู้สึกตัวญาติจึงนำตัวส่ง รพ.พระพุทธบาท ขณะรอที่ห้องตรวจ กรณีศึกษาอาเจียนไป 1 ครั้ง แล้วหมดสติ จากนั้นก็จำเหตุการณ์ไม่ได้ ว่าแพทย์ทำอะไรบ้าง นอนรักษาตัวที่ รพ.พระพุทธบาท ระหว่างนอนรักษาตัวนั้น กรณีศึกษามีอาการปวดศรีษะ แพทย์ต้องคอยปรับยาให้กรณีศึกษา จึงค่อยๆมีอาการดีขึ้น นอนรักษาเป็นเวลา 10 วัน จึงได้กลับบ้านทำงานได้ปกติ เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน แต่ทำได้ช้าลง
-
ครอบครัว
-
สมาชิกในครอบครัว
นางจาริณี วีรนานนท์ อายุ 73 ปี สถานภาพ เป็นหม้าย จบการศึกษาระดับชั้นม.2 ไม่ได้ประกอบอาชีพ รายได้ 700 บาท/เดือน.
นางสาว.................. อายุ 42 ปี(ลูกสาว) สถานภาพโสด จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการจัดการโรงแรม ทำอาชีพเป็นลูกจ้างชั่วคราวที่เทศบาลตำบลพุกร่าง รายได้ประมาณ 10,000 บาท/เดือน
มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน คุณยายเป็นพี่สาวคนโต มีน้องสาว 1 คนเเละน้องชาย 1 คน (เสียชีวิตเเล้ว) ปัจจุบันแยกกันอยู่ กับน้องสาวคุณยายสมรสเมื่ออายุ 22 ปี มีลูกสาว 1 คน ตอนอายุ 30 ปี ปี 2536 เเละในวันที่ 4 กันยายน ปี พ.ศ. 2552 สามีเสียชีวิตด้วยสาเหตุการกินขนมเข่ง เเล้วเกิดติดคอ ญาตินำส่งโรงพยาบาล เเต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทันจึงเสียชีวิตลง
สัมพันธภาพในครอบครัว
-
การดูแลเรื่องอาหาร:กรณีศึกษาทำอาหารรับประทานเองโดยจะเตรียมไว้ทั้งมื้อเช้าและมื้อกลางวันพร้อมกัน และจะเตรียมอาหารไว้ให้ลูกสาวนำไปรับประทานที่ที่ทำงาน ส่วนมื้อเย็นจะทำอีกครั้ง
กรณีศึกษาเล่าว่าจะคอยดูแลซึ่งกันและกันตลอด เป็นห่วงสุขภาพซึ่งกันและกัน เช่น กรณีศึกษาป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และพากินสัน ลูกสาวจะพากรณีศึกษาไปหาหมอเสมอ เป็นต้น
-
สังคม
ปัจจุบันกรณีศึกษาอาศัยอยู่ท่บ้านคนเดียว ส่วนลูกสาวอาศัยอยู่บ้านราชาวดี ซึ่งคุณยายซื้อไว้ให้ บางครั้งลูกสาวจะมารับไปนอนที่บ้านลูกสาว
นานๆเพื่อนบ้านจะเดินมาคุยด้วย บางทีถ้าตนเดินไหวก็จะเดินไปหาเพื่อนบ้านสักพัก แต่ไม่ค่อยอยากออกไปไหนเพราะเดินไม่ค่อยไหว เวลามีปัญหาอะไรก็จะเรียกเพื่อนบ้าน เพื่อนบ้านก็จะคอยช่วยเหลือ เช่น เวลาจะซื้อของเพื่อนบ้านก็จะมาไถ่ถามจะฝากซื้ออะไรไหม
เดิมไม่ค่อยชอบเที่ยวเพราะเป้นคนที่ไม่ค่อยมีความทรงจำเกี่ยวกับสถานที่ซักเท่าไหร่ เมื่อถึงเทศกาลสำคัญลูกสาวก็จะพาไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า
จิตใจ
ความรู้สึก
กรณีศึกษเล่าว่า ตั้งแต่มารดาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก ตอนที่อายุ 21 ปี ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนชีวิตมันแย่ใจมันกลัวและใจสั่น เพราะเหลือเพียง 3 พี่น้องจึงทำให้ตนรู้สึกว่าเป็นโรคเกี่ยวกับความกลัว ซึ่งน้องสาวก็เป็นเหมือนกัน โดยหมอจะฉีดยาให้ก็จะรู้สึกดีขึ้นเหมือนได้กำลังใจ(แต่ไม่ทราบว่าหมอฉีดยาอะไรให้)
-
กรณีศึกษาเล่าว่าเป็นห่วงลูกเพราะลูกอาศัยอยู่คนเดียวและมีโรคประจำคือโรคภูมิแพ้และกลัวลูกจะไม่มีคนคอยดูแล
ความคิด
กรณีศึกษาเล่าว่า คิดอยู่ตลอดเวลาว่าตนเองจากไปเมื่อใดอยากให้ลูกสาวอยู่สบายและใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีความสุข
ความเชื่อ
กรณีศุึกษาเล่าว่าตนเองเชื่อว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วและจะเชื่อมั่นในตนเองรวมถึงสิ่งที่ตนเองได้ปฏิบัติ ตนจะเป็นคนที่ชอบให้มากกว่ารับ
พฤติกรรม/การดำเนินชีวิต
กรณีศึกษาเล่าว่า ตื่นนอนเวลาประมาณ 04.00 นาฬิกา ล้างหน้า แปรงฟัน ออกกำลังกายโดยการเเกว่งเเขน จากเดิมเคยทำวันละ 1000 ครั้งปัจจุบันลดเหลือวันละ 100 ครั้ง เนื่องจากอายุเยอะขึ้นรวมทั้งมีโรคประจำตัวทำให้เหนื่อยมากขึ้น จากนั้นหุงข้าว ทำอาหารเช้า สำหรับมื้อเช้าและมื้อกลางวัน รับประทาอาหารเช้าช่วงเวลา 08.00 - 09.00 นาฬิกา หลังจากนั้นให้อาหารแมวที่เลี้ยงไว้ รับประทานอาหารกลางวันช่วงเวลา 12.00- 13.00 นาฬิกา และจะนอนดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือพิมพ์ หรือไม่ก็นอนกลางวันในบางวัน ประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 15.30 นาฬิกา เตรียมประกอบอาหารเย็น เเละจะรับประทานอาหารเย็นช่วงเวลา 16.00 - 17.00 นาฬิกา โดยจะทานอาหารตามเเพทย์สั่งไม่เคยขาดยา หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ จะอาบน้ำและดูโทรทัศน์รายการต่างๆ เข้านอนเวลา 20.00 นาฬิกา
เป้าหมาย
กรณีศึกษาบอกว่า ต้องการให้ลูกสาวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีร่างกายที่แข็งแรงและคุณยายจากไปอย่างสงบเเละไม่ต้องการอะไรมากเพียงใช้ชีวิตเเต่ละวันให้มีความสุข
-
สภาพเเวดล้อม
ลักษณะ : บ้านเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนเป็นไม้ชั้นล่างเป็นปูน ยามหน้าฝน ฝนจะสาดเข้ามา บริเวณหน้าบ้านมีศาลพระภูมิตั้งอยู่โดยกรณีศึกษาให้ข้อมูลว่า เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ชั้นบนของบ้านมีห้องนอนเเละเเอร์ ส่วนชั้นล่างเป็นใต้ถุนโล่ง มีห้องครัว บริเวณใต้ถุนมีโทรทัศน์ 1 เครื่อง มีโซฟาไม้ 1 ตัว โต๊ะไม้อีก 4 ตัวสิ่งของที่วางอยู่ไม่เป็นระเบียบเเละมีส่วนที่ติดกับบริเวณตัวบ้านคือโรงรถ ถัดจากโรงรถไปด้านหลังเป็นบริเวณที่ว่างมีหญ้ารกสูงซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของเทศบาลมาตัดหญ้าให้เเต่ละเดือน กรณีศึกษาเล่าว่าไม่มีสัตว์ร้ายภายในบ้าน เเต่จะมียุงเยอะ
-
เศรษฐกิจ
กรณีศึกษา เล่าว่าเคยมีอาชีพค้าขายโดยหาบเร่ขายฉลาก ส่วนบิดามารดาขายของโชห่วยหลังจากแต่งงานเปลี่ยนมาประกอบอาชีพ โดยทำธุรกิจขับรถสิบล้อ ขนไม้ไผ่ลวกเล็ก ไม้ไผ่ลวกใหญ่ มีขนไม้ผิดกฎหมาย ขนข้าวโพด พอทำได้สักพักไม่มีลูกค้า จึงหยุดกิจการเนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่างวดรถ ต่อมาทำธุรกิจโรงฆ่าสัตว์ซึ่งเป็นอาชีพที่สามีทำอยู่แล้ว โดยจะส่งเฉพาะเนื้อวัว ทำส่งที่ตลาดพระพุทธบาทและตลาดอื่นๆ ทั้งในตลาดสระบุรีและตลาดลพบุรี แต่ในปี พศ. 2540 ได้ประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งทำให้ของแพงแต่ต้องขายส่งในราคาเดิมจึงต้องหยุดกิจการ เนื่องจากลูกค้าที่เคยสั่งซื้อเนื้อลดจำนวนลง บางรายก็เลิกสั่งไปเลย ทำให้ต้องขาดทุน ในปัจจุบันกรณีศึกษาไม่ได้ประกอบอาชีพ มีรายได้จากเงินเดือนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท รายได้ในครอบครัวพอเพียงกับรายจ่ายในแต่ละเดือน แต่ก็ต้องช่วยกันประหยัด มีที่ดินอยูที่ชุมชนหนองแก และชุมชนพระลาน และตึกแถว แต่ไม่มีคนเช่า ส่วนค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ลูกสาวจะเป็นคนรับผิดชอบ ยกเว้นค่าน้ำ ค่าไฟ กรณีศึกษาจะจ่ายเองเดือนละประมาณ 700 บาท กรณีศึกษาเล่าว่าแต่เดิมถ้ามีเงินเหลือก็จะฝากประจำซึ่งตอนนั้นดอกเบี้ยสูง แต่ปัจจุบันไม่ได้ฝากเพราะดอกเบี้ยต่ำลง จึงเปลี่ยนมาเป็นซื้อฉลากของ ธกส.แทน
การศึกษา
เคยจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนเกาะลอย (เป็นโรงเรียนจีน) ต่อมาย้ายมาเรียนชั้นมัธยมที่ 1-2 ที่โรงเรียนสตรีอยุธยาอนุสรณ์มูลนิธิ