Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ทฤษฎีการสื่อสาร (วิวัฒนาการของทฤษฎีการสื่อสาร (ทฤษฎีการสื่อสารยุคปัจจุบัน,…

- - - - ส่งไปยังใคร ในสถานการณ์อะไร
      - ได้ผลอย่างไรในปัจจุบัน และอนาคต
- - - - 1.การสื่อสารภายในร่างกาย เป็นไปทั้งโดยมีจิตสำนึก (conscious) จิตใต้สำนึก (subconscious) และจิตไร้สำนึก (unconscious)
      - 2.การสื่อสารระหว่างร่างกายกับภายนอก เป็นการสื่อสารระหว่างสิ่งมีชีวิตกับภายนอกร่างกายของตนเอง หรือกับสิ่งแวดล้อม ส่วนใหญ่กระทำโดยจิตสำนึกที่เกิดจากการส่งสาร และรับสารผ่านประสาทการรับรู้
  - - - 1.การวิพากษ์เชิงองค์รวม (holistic approach criticism) ที่นำโลกการสื่อสารเข้าสู่ยุคหลังสมัยนิยม
      - 2.การปฏิรูปแนวคิดและแนวทางการพัฒนาการสื่อสารในสังคมใหม่
    - - เป็นช่วงวิกฤตทางทฤษฎี ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ทฤษฎีการสื่อสาร เพราะถึงแม้โลกจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะระบบอินเตอร์เน็ตที่สามารถทำให้ทุกองค์กรและทุกสังคมติดต่อเชื่อมโยงกันได้ในอาณาจักรไซเบอร์ (Cyberspace) หรือโลกไซเบอร์ (Cyberworld) แต่โลกภายใต้การบริหารจัดการขององค์กรโลก หรือสหประชาชาติก็ยังอยู่ในสภาพไร้ระเบียบและแตกแยกจลาจลกันจนถึงขั้นทำศึกสงคราม
  - - - มีการพัฒนาวิชาการสื่อสาร ใน 6 ด้าน
        
        1.วารสารศาสตร์ทางสื่อสิ่งพิมพ์ (print journalism) โดยเริ่มต้นที่มหาวิทยาลัยมิสซูรี และมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (นครนิวยอร์ค) ค่อยๆขยายครอบคลุมการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์
        
        3.การปฏิวัติทางโทรคมนาคม ก่อให้เกิดการพัฒนาวารสารศาสตร์ทางวิทยุและ โทรทัศน์ การประดิษฐ์เครื่องส่งสัญญาด้วยคลื่นวิทยุของไฮน์ริค เฮิร์ตส์ (Heinrich Hertz)
        
        6.ทางด้านจิตวิทยาการสื่อสาร ซิกมุนด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) ถือได้ว่าเป็นบุคคลแรกที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับการสื่อสารภายในบุคคล อย่างลึกซึ้งจริงจัง ทั้งในด้านทฤษฎีและการปฏิบัติ ซึ่งรู้จักกันทั่วไปในนามของจิตวิเคราะห์ และจิตบำบัด
        
        2.วิชาการภาพยนตร์ เริ่มเจริญเติบโตในสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมนี
        
        4.ทางด้านหนังสือ เริ่มเกิดมีวรรณกรรมมวลชน โดยการบุกเบิกของนักเขียนอเมริกัน ชื่อ เอช จี เวลส์ (H.G. Wells) นักเขียนอังกฤษชื่อ ดี เอ็ช ลอเรนซ์ (D.H. Lawrence) และนักเขียนฝรั่งเศส ชื่อ จูลส์ เวร์น (Jules Verne)
        
        5.ทางด้านสังคมวิทยาการสื่อสาร เอมีล ดูรแกง ทำการวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการสื่อสารกับการฆ่าตัวตาย สร้างเป็นทฤษฎีอัตวินิบาตกรรม (1897) ที่เสนอว่าสังคมที่มีระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลต่ำจะมีอัตราการฆ่าตัวตายสูง
    - - อาณาเขตของทฤษฎีการสื่อสารได้ขยายออกไปครอบคลุมรัฐศาสตร์ของการสื่อสาร (Politics of Communication) เกิดปรากฏการณ์ที่อาจวิเคราะห์เชิงทฤษฎีออกได้เป็น 3 ปทัสถาน
        
        1.ทฤษฎีอำนาจนิยมนาซีและฟาสชิสต์
        
        2.ทฤษฎีเสรีนิยมแบบตะวันตก
        
        3.ทฤษฎีเบ็ดเสร็จนิยมแบบมาร์กซิสต์-เลนินิสต์
  - - - 1.การวิพากษ์ทฤษฎีการสื่อสารของกลุ่มอำนาจนิยม และเบ็ดเสร็จนิยม
        
        2.การก่อเกิดทฤษฎีสื่อสารเพื่อการพัฒนา หรือนิเทศศาสตร์พัฒนาการ
      - 3.การวิพากษ์ลัทธิสมัยนิยม (modernism) ที่เป็นจุดเริ่มต้นของลัทธิหลังสมัยนิยม (postmodernism)
        
        4.การพัฒนาเทคนิคและเทคโนโลยีอันเป็นที่มาของศาสตร์แห่งการสื่อสารมวลชน
- - - - 2.ข้อมูลข่าวสาร (message) เกี่ยวข้องด้านเนื้อหา สัญลักษณ์ และวิธีการส่งข่าวสาร
        
        ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อทฤษฏี SMCR
        
        1.ทักษะในการสื่อสาร
        
        3.ระดับความรู้
        
        4.ระบบสังคมและวัฒนธรรม
        
        2.ทัศนคติ
      - ผู้รับ (receiver) ต้องเป็นผู้มีทักษะความชำนาญในการสื่อสารโดยมีความสามารถใน “การถอดรหัส” (decode) สาร
    - - 1.การได้ยิน
        
        2.การดู
        
        5.การได้กลิ่น
        
        4.การสัมผัส
      - 3.การลิ้มรส
  - - - ได้คิดรูปแบบจำลองของการสื่อสารขึ้นในลักษณะของกระบวนการ สื่อสารทางเดียวเชิงเส้นตรง
        
        แชนนันและวีเวอร์จะมองถึงองค์ประกอบพื้นฐานของการสื่อสารเช่นเดียวกับเบอร์โลแล้ว ยังให้ความสำคัญกับ "สิ่งรบกวน" (Noise) ด้วยเพราะในการสื่อสารหากมีสิ่งรบกวนเกิดขึ้นก็จะหมายถึงการเป็นอุปสรรคต่อการสื่อสาร
      - ผู้ส่ง(แหล่งข้อมูล)
        
        เครื่องส่ง(ตัวถ่ายทอด)
        
        ช่องทาง
        
        ผู่รับ(เครื่องรับ)
        
        จุดหมายปลายทาง
        
        สิ่งรบกวน
    - - การสื่อสารเชิงวงกลมของออสกูดและชแรมม์
        
        สร้างรูปแบบจำลองเชิงวงกลม
        
        ผู้ส่งและผู้รับจะมีการเปลี่ยนบทบาทกันไปมาในลักษณะการสื่อสารสองทาง
        
        เมื่อผู้ส่งได้ส่งข้อมูลข่าวสาร ฝ่ายผู้รับจะทำการแปลความหมายข้อมูลที่รับมา
        
        ผู้ส่งเดิมจะเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้รับเพื่อรับข้อมูลที่ส่งกลับมาและทำการแปลความหมายสิ่งนั้น
        
        และจะเปลี่ยนบทบาทจากผู้รับกลับเป็นผู้ส่งเดิมเพื่อตอบสนองต่อสิ่งที่รับมา
        
        การสื่อสารในลักษณะดังกล่าวจะวนเวียนเปลี่ยนบทบาทกันไปมาในลักษณะเชิงวงกลม
      - ขอบข่ายประสบการณ์ในทฤษฏีการสื่อสารของชแรมม์
        
        นำรูปแบบจำลองการสื่อสาร ลักษณะกระบวนการสื่อสารทางเดียวเชิงเส้นตรงของแชนนันและวีเวอร์มาใช้
        
        การสื่อสารจะเกิดขึ้นได้อย่างดีมีประสิทธิภาพเฉพาะในส่วนที่ผู้ส่งและผู้รับทั้งสองฝ่ายต่างมีวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ความรู้ ฯลฯ สอดคล้องคล้ายคลึงและมีประสบการณ์ร่วมกัน
        
        ผู้ส่งสามารถเข้ารหัสและผู้รับสามารถถอดรหัสเนื้อหา
        ข่าวสารได้ เฉพาะในขอบข่าย ประสบการณ์ที่แต่ละคนมีอยู่
        
        เป็นแนวทางในการอธิบายการสื่อสารที่เกิดขึ้นในการเรียนการสอน