Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (คลื่นโทรทัศน์ (โทษ (รังสีจากคลื่นโทรทัศน์ทำให้สมองเสื่…
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นโทรทัศน์
การส่งสัญญาณถ่ายทอดเสียงและภาพพร้อมกันจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยเครื่องที่เปลี่ยนสัญญาณภาพและเสียงเป็นคลื่นโทรทัศน์ เรียกว่า เครื่องส่งโทรทัศน์ และเครื่องที่เปลี่ยนคลื่นโทรทัศน์เป็นสัญญาณภาพและเสียง เรียกว่าเครื่องรับโทรทัศน์
-
-
การแพร่ภาพ
หลักการเบื้องต้นของการแพร่ภาพโทรทัศน์คือ การส่งกระจายทั้งภาพและเสียงออกไปในรูปสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อให้เครื่องรับสามารถรับได้ทั้งภาพและเสียงอย่างต่อเนื่อง แต่จริง ๆ แล้วภาพที่ต่อเนื่องได้นั้นมาจากการส่งภาพนิ่งที่มีความแตกต่างกันเล็กน้อยหลาย ๆ ภาพต่อเนื่องกันในช่วงเวลาสั้น ๆ หากภาพนิ่งเหล่านั้นถูกนำมาลำดับตั้งแต่ 16 ภาพต่อวินาทีขึ้นไป สายตาของคนเราจะเห็นเป็นภาพเคลื่อนที่ได้
เครื่องส่งโทรทัศน์
เครื่องส่งโทรทัศน์ประกอบไปด้วย 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือส่วนที่เป็นสัญญาณภาพและส่วนที่เป็นสัญญาณเสียง โดยสัญญาณภาพจะส่งไปในรูปของสัญญาณ เอเอ็ม. และสัญญาณเสียงจะส่งไปในรูปของสัญญาณ เอฟเอ็ม. การแพร่กระจายคลื่นออกไปในรูปของแม่เหล็กไฟฟ้าจากตัวสายอากาศ โดยทั่วไปหากเป็นสถานีภาคพื้นดินจะครอบคลุมพื้นที่ทางตรงได้ประมาณ 75 ไมล์ หรือ 121 กิโลเมตร
ประโยชน์
ในภาคครัวเรือน รับชมสัญญาณโทรทัศน์ผ่านเครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ เพื่อรับฟังข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ รวมทั้งสื่อบันเทิง และสื่อต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์
ในหน่วยงานภาครัฐ ใช้คลื่นโทรทัศน์ในการกระจายข่างสารจากหน่วยงานรัฐให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง
ในหน่วยงานเอกชน ใช้สัญญาณโทรทัศน์ในการโฆษณาสินค้า หรือบริการต่าง ๆ ให้บุคคลหรือประชาชนได้รับทราบสินค้า หรือบริการขององค์กรนั้น ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ทางธุรกิจและการลงทุนต่าง ๆ ของหน่วยงานเอกชน
โทษ
-
-
หญิงที่ตั้งครรภ์อยู่และรับชมสัญญาณโทรทัศน์หรือดูโทรทัศน์บ่อยเกินไป เด็กที่อยู่ในครรภ์ที่เกิดมาอาจพิการ สติไม่สมประกอบ หรืออาจแท้งลูกได้โดยง่าย อันเนื่องจากการแผ่รังสีจากโทรทัศน์นั่นเอง
-
โพลาไรเซชันของแสง
โพลไรเซชันโดยการสะท้อน
รังสีสะท้อนกับรังสีหักเห ทำมุมกัน90องศา รังสีสะท้อนจะเป็น รังสีโพลาไรด์ เรียก มุมตกกระทบที่ทำให้รังสีสะท้อนแป็นรังสีโฟลาไรด์ ว่า มุมบูรสเตอร์
-
แสงโดยทั่วไปเช่นดวงอาทิตย์ หลอดไฟ เปลวไฟ จะมีทิศมากมาย ดังนั้นแสงจากแหล่งกำเนิดดังกแต่เราสามารถเปลี่ยนแสงไม่เป็นโพลาไรด์ให้เป็นโพลาไรด์ ได้โดย ใช้แผ่นโพลารอยด์(polyvinylacohol)
ล่าวจึงเป็น แสงไม่โพลาไรด์
โพลาไรเซชันโดยการกระเจิง
คือการที่แสงตกกระทบกับโมเลกุลของอากาศ อิเล็กตรอนในโมเลกุลจะดูดกลืนแสงและปลดปล่อยแสงนั้นมาในทุกทิศทาง เมื่อแสงที่มี E ในแนวระดับกระทบโมเลกุลอากาศ eจะเคลื่อนที่ไปมาในแนวระดับ ขณะเดียวกันE แนวดิ่ง 0ะทำให้ e เคลื่อนที่ไปมาในแนวดิ่งเกิดปรากฏการณ์โพลาไรเซซัน
โพลาไรเซชัน
สายอากาศโทรทัศน์ที่อยู่ในแนวดิ่ง เมื่อส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกไป สนามไฟฟ้าจะเปลี่ยนแปลงทิศกลับไปมาในแนวดิ่งเสมอ จึงกล่าวว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้เป็น คลื่นโพลาไรส์ (polarized wave) ในแนวดิ่ง
สำหรับสายอากาศที่อยู่ในแนวระดับ เมื่อส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกไป สนามไฟฟ้าจะเปลี่ยนแปลงทิศกลับไปกลับมาในแนวระดับ คือเป็นคลื่นโพลาไรส์ในแนวระดับ
โพลาไรเซชันโดยการหักเห
แสงผ่านแท่งแก้ว ความเร็วจะเท่ากันทุกจุดในแก้ว
แสงผ่านผลึกแคลไวต์ หรือควอร์ตซ ความเร็วแสงจะไม่เท่ากันทุกจุด จึงมีการหักเหเป็น 2 แนว
- การสั้นของกระแสไฟฟ้าในแนวดิ่ง
- การสั้นของกระแสไฟฟ้าในแนวระดับ
-
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
-
- การเปลี่ยนแปลงค่าของสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้าเกิดขึ้นพร้อมกัน ดังนั้นสนามทั้งสองจึงมีค่าสูงสุดและต่ำสุดพร้อมๆกัน หรือมีเฟสตรงกัน
- ทิศของสนามแม่เหล็กและทิศของสนามไฟฟ้าจะตั้งฉากซึ่งกันและกัน และตั้งฉากกับทิศการเคลื่อนที่ของคลื่นซึ่งมีลักษณะเป็นคลื่นตามขวาง
- ณ บริเวณใดมีคลื่นไฟฟ้าผ่านบริเวณนั้นจะมีสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้าทันที
- อนุภาคที่มีประจุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่คงที่ จะมีการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมา
รังสีอัลตราไวโอเลต
-
-
-
รังสีอัลตราไวโอเลตเป็นช่วงรังสีที่อยู่ระหว่างชนิดรังสีที่แตกตัวได้ และแตกตัวไม่ได้ ประกอบด้วย 3 ชนิดความยาวคลื่น
-
-
-
-
-
รังสีเอกซ์
ประเภทรังสีเอกซ์
- รังสีเอกซ์ที่มีสเปกตรัมแบบเฉพาะตัว หรือรังสีเอกซ์เฉพาะตัว เป็นรังสีเอกซ์ที่ได้มาจากการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสีซึ่งเป็นการกระตุ้นโดยอาศัยพลังงานจากภายในอะตอม
- รังสีเอกซ์ที่มีสเปกตรัมแบบต่อเนื่อง เป็นรังสีเอกซ์ที่ได้มาจากเครื่องกำเนิดรังสีเอกซ์โดยการเร่งให้อนุภาคมีประจุวิ่งเข้าชนเป้าโลหะ
ประโยชน์รังสีเอกซ์
-
-
- ทางด้านความมั่นคง และอากาศยาน
-
รังสีเอกซ์ (x-ray) เป็นรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติเป็นทั้งคลื่น และอนุภาค เช่นเดียวกับรังสีแกมมา แต่มีช่วงความยาวคลื่นต่ำกว่ารังสีแกมมา
-
คุณสมบัติ
-
- มีคุณสมบัติเหมือนกับแสงสว่างธรรมดา มีความเร็วการเดินทางในสุญญากาศเท่ากับความเร็วแสง
- เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง และไม่ถูกทำให้เบี่ยงเบนโดยสนามแม่เหล็ก และไฟฟ้า
- ทำให้วัตถุบางอย่างเรืองแสงได้
- เป็นรังสีก่อไอออน เมื่อผ่านในตัวกลางที่เป็นอากาศหรือก๊าซ
- ทำให้เกิดรอยดำบนแผ่นฟิล์มถ่ายรูปได้ เช่นเดียวกับแสงสว่าง
- ทะลุทะลวงผ่านวัตถุต่าง ๆ ได้ดี สามารถทะลุผ่านเนื้อเยื่อมนุษย์ และสัตว์ พลาสติก เสื้อผ้า แต่ไม่สามารถผ่านโลหะตะกั่วหรือคอนกรีตหนาๆได้
- ถูกดูดกลืนโดยวัตถุที่มีเลขเชิงมวลสูง
- ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสารชีวเคมีในสิ่งมีชีวิต เช่น เซลล์ของร่างกายถูกทำลาย หรือเกิดการกลายพันธุ์ (Mutation) ถ้าได้รับรังสีเป็นจำนวนมาก และเป็นเวลานาน
คลื่นไมโครเวฟ
ประโยชน์คลื่นไมโครเวฟ
-
- ใช้ในระบบตรวจจับวัตถุทางอากาศ การนำร่องทางการบิน การเดินเรือ และยุทโธปกณ์เคลื่อนที่เรดาร์
- ใช้ในทางการแพทย์ สำหรับการฆ่าเชื้อ หรือการรักษาโดยการใช้ความร้อน โดยความมีช่วงความยาวคลื่นที่ ยาวกว่าคลื่นไมโครเวฟที่ใช้ปรุงอาหารหรือมีความถี่คลื่นน้อยกว่า เพราะการรักษาอาการป่วยของ มนุษย์จะต้องใช้ความร้อนในขนาดที่ร่างกายทนได้ ห้ามการใช้ความร้อนสูง เช่น การรักษาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อหรือข้อ โดยใช้คลื่นไมโครเวฟความถี่ต่ำที่ให้ความร้อนเพียงอุ่นๆ ส่วนการรักษา และทำลายเซลล์มะเร็งในร่างกาย แพทย์จะใช้คลื่นไมโครเวฟที่มีความถี่สูงขึ้นมาเล็กน้อย
- ใช้เป็นแหล่งกระตุ้นให้เกิดความร้อนภายในอาหารหรือใช้ประกอบอาหารให้สุก หรือที่นิยมเรียกว่า เตาไมโครเวฟ รวมถึง ใช้เป็นแหล่งให้ความร้อนในกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม โดยใช้คลื่นความถี่ในช่วง 915 – 2,450 MHz
-
คลื่นไมโครเวฟมีความยาวคลื่นในช่วง 1 mm ถึง 1 m มีความถี่ของช่วงคลื่นในช่วง 300 MHz ถึง 300 GHz ซึ่งมีความถี่คลื่นสูงสุดประมาณ 2,450 ล้านรอบ/วินาที โดยมีใช้ทางอุตสาหกรรมที่ความถี่ในช่วง 915 – 2,450 MHz ส่วนคลื่นความถี่ไมโครเวฟที่เหลือจะสงวนไว้ใช้ในการวิจัยและงานอื่นๆ
การใช้งานคลื่นไมโครเวฟ
- ระบบเชื่อมต่อสัญญาณในระดับสายตา ใช้ในงานสื่อสารโทรคมนาคมระหว่างงจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง
2 ระบบเหนือขอบฟ้า (Over the Horison) เป็นระบบสื่อสารไมโครเวฟที่ใช้ชั้นบรรยากาศห่อหุ้มโลกชั้นโทรโพสเฟียร์ (Troposphere) ช่วยในการสะท้อนและการหักเหคลื่นความถี่ไมโครเวฟ ให้ถึงปลายทางในระยะทางที่ไกลขึ้น การสื่อสารไมโครเวฟระบบนี้ไม่ค่อยนิยมใช้งาน ใช้เฉพาะในกรณีจำเป็นหรือฉุกเฉิน
3.ระบบดาวเทียม (Statellite System) เป็นระบบสื่อสารไมโครเวฟที่ใช้สถานีทวนสัญญาณลอยอยู่ในอวกาศเหนือพื้นโลกกว่า 30,000 กิโลเมตร โดยใช้ดาวเทียมทำหน้าที่เป็นสถานีทวนสัญญาณ ทำให้สามารถสื่อสารด้วยคลื่นไมโครเวฟได้ระยะทางไกลมาก ๆ นิยมใช้งานในระบบสื่อสารข้ามประเทศข้ามทวีป เป็นระบบสื่อสารที่นิยมใช้งานมากอีกระบบหนึ่ง
- ระบบเรดาร์ (RADAR System) เรดาร์ (RADAR) ย่อมาจากคำเต็มว่า Radio Detection And Ranging เป็นการใช้คลื่นความถี่ไมโครเวฟช่วยในการตรวจจับและวัดระยะทางของวัตถุต่าง ๆ ที่อยู่ห่างไกล ตลอดจนวัตถุเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ หลักการของเรดาร์คือการส่งคลื่นไมโครเวฟออกไปจากสายอากาศในมุมแคบ ๆ เมื่อคลื่นไมโครเวฟกระทบกับวัตถุจะสะท้อนกลับมาเข้าสายอากาศอีกครั้ง นำสัญญาณที่รับเทียบกับสัญญาณเดิมและแปรค่าออกมาเป็นข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องการ
- ระบบเตาไมโครเวฟ (Microwave Over) เป็นการใช้คลื่นไมโครเวฟที่กำลังส่งสูง ๆ ส่งผ่านเข้าไปในบริเวณพื้นที่แคบ ๆ ที่ทำด้วยโลหะ คลื่นไมโครเวฟสามารถสะท้อนกำแพงโลหะเหล่านั้น เกิดเป็นคลื่นไมโครเวฟกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ นั้น สามารถนำไปใช้ในการอุ่นอาหาร หรือทำอาหารสุก
-
-
-
-
การปั๊ม
-
-
-
แสง
กฎการสะท้อนของแสง
- รังสีตกกระทบ รังสีสะท้อน และเส้นปกติ ต้องอยู่ในระนาบเดียวกัน
- มุมตกกระทบต้องมีขนาดเท่ากับมุมสะท้อน
-
-
รังสีแกมม่า
ประวัติการค้นพบรังสีแกมม่า
ค้นพบ รังสีแกมมา โดย พอล อูริช วิลลาร์ด (Paul Ulrich Villard) นักฟิสิกส์ฝรั่งเศส วิลลาร์ด ค้นพบรังสีแกมมาจากการศึกษากัมมันตภาพรังสีที่ออกมาจากเรเดียม ซึ่งถูกค้นพบมาก่อนแล้วว่าบางส่วนจะเบนไปทางหนึ่ง เมื่อผ่านสนามแม่เหล็กบางส่วนจะเบนไปอีกทางหนึ่ง กัมมันตภาพรังสีทั้งสองประเภทนี้ คือ รังสีแอลฟา และรังสีบีตาร
รังสีแกมมา ( Gamma radiation หรือ Gamma ray) มีสัญลักษณ์เป็นตัวอักษรกรีกว่า γ เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่ง ที่มีช่วงความยาวคลื่นสั้นกว่ารังสีเอกซ์ (X-ray) รังสีแกมมามีความถี่สูงมาก ดังนั้นมันจึงประกอบด้วยโปรตอนพลังงานสูงหลายตัว รังสีแกมมาเป็นการแผ่รังสีแบบ ionization มันจึงมีอันตรายต่อชีวภาพ รังสีแกมมาถือเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีพลังงานสูงที่สุดในบรรดาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ ที่เหลือทั้งหมด
-
-
การแผ่รังสี
รังสีแกมม่าเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ความยาวคลื่นสั้นมาก ไม่มีมวล ไม่มีประจุ จึงไม่เบี่ยงเบนในสนามไฟฟ้า มีนาจทะลุทะลวงสูงสุด แต่มีพลังงานต่ำที่สุด สามารถทะลุผ่าน แผ่นไม้ โลหะ หรือแม้แต่เนื้อเยื่อได้ แต่จะถูกกั้นไว้ได้ด้วยคอนกรีตหนา หรือแผ่นตะกั่วหนา เกิดจากการที่ธาตุมีพลังงานในนิวเคลียสสูงเกินไป จึงเกิดการแผ่รังสีเพื่อเปลี่ยนระดับพลังงานจากสถานะถูกกระตุ้นมายังสถานะพื้น ทำให้ได้นิวเคลียสของธาตุเดิมที่มีพลังงานต่ำลง