Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Electromagnetic waves (รังสีอินฟราเรด (Infrared Radiation, IR)…

- - - - ข้อดีการอบแห้งด้วยรังสีอินฟราเรด
        
        – ระบบให้ความร้อนควบคุมได้ง่าย
        
        – สามารถถ่ายเทความร้อนไปยังผลิตภัณฑ์ได้ดี
      - ข้อเสียการอบแห้งด้วยรังสีอินฟราเรด
        
        – สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่จะต้องเพิ่มขนาดหลอดรังสีอินฟราเรด ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น
        
        ไม่เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีความหนามาก
    - - ความร้อนที่ได้จากรังสีอินฟราเรดที่ความยาวคลื่น 3-6 ไมครอน สามารถกำจัดแมลงในเมล็ดข้าวได้ถึง 100%
    - - – ใช้เป็นตัวกลางสื่อสารสำหรับอุปกรณ์ไร้สาย
      - – ภาพถ่ายดาวเทียมในช่วงคลื่นรังสีอินฟราเรด
- - - - ระบบการผสมคลื่นที่เมื่อผสมกันแล้วทำให้ความสูงของคลื่นวิทยุเปลี่ยนแปลงไปตามคลื่นเสียง
      - ให้คุณภาพของเสียงไม่ดีนัก เพราะเกิดการรบกวน ได้ง่าย
      - ความถี่การใช้งานออกเป็นช่วงคลื่น (Band) ต่างๆ
        
        1 LW (Long wave) ความถี่ 30 -300 KHz
        
        2 MW (Medium Wave) ความถี่ 535 -1605 KHz
        
        3 SW (Shot Wave) ความถี่ 3 -30 MHz คุณภาพเสียงไม่ดี แต่ส่งไปได้ไกลมากนับพันกิโลเมตร
    - - การผสมคลื่นทางความถี่ (Frequency Modulation) คือคลื่นวิทยุที่ผสมกับคลื่นเสียงแล้ว จะมีความถี่ไม่สม่ำเสมอ เปลี่ยนแปลงไปตามคลื่นเสียง
- - - - การผ่าตัดอวัยวะภายในต่างๆ
        
        ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตา
        
        บำบัดโรคมะเร็งผิวหนัง รักษาโรคนิ่ว
    - - โทรศัพท์ วิทยุโทรเลข
        การสื่อสารทางดาวเทียม
    - - เครื่องตัด/เจาะ/เชื่อม/แกะสลักวัสดุ เครื่องวัดระยะทาง
- - - - – ใช้ตรวจหาความหนาแน่นของวัตถุหรือโลหะ
      - – ใช้ตรวจหารอยร้าวหรือรอยรั่วของชิ้นงาน
- - - - 1.1 ระบบเอเอ็ม (A.M. = amplitude modulation)
        
        ระบบเอเอ็ม มีช่วงความถี่ 530 - 1600 kHz
        
        สื่อสารโดยใช้คลื่นเสียงผสมเข้าไปกับคลื่นวิทยุเรียกว่า "คลื่นพาหะ" โดยแอมพลิจูดของคลื่นพาหะจะเปลี่ยนแปลงตามสัญญาณคลื่นเสียง
        
        ในการส่งคลื่นระบบ A.M.
        
        คลื่นดินเป็นคลื่นที่เคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงขนานกับผิวโลก
        
        คลื่นฟ้าโดยคลื่นจะไปสะท้อนที่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ แล้วสะท้อนกลับลงมา
      - 1.2 ระบบเอฟเอ็ม (F.M. = frequency modulation)
        
        ระบบเอฟเอ็ม มีช่วงความถี่ 88 - 108 MHz
        
        สื่อสารโดยใช้คลื่นเสียงผสมเข้ากับคลื่นพาหะ
        
        ความถี่ของคลื่นพาหะจะเปลี่ยนแปลงตามสัญญาณคลื่นเสียง
        
        ในการส่งคลื่นระบบ F.M.
        
        คลื่นดิน
    - - คลื่นโทรทัศน์และไมโครเวฟมีความถี่ช่วง 108 - 1012 Hz
      - ไม่สะท้อนที่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ แต่จะทะลุผ่านชั้นบรรยากาศไปนอกโลก
      - ไมโครเวฟนำสัญญาณจากสถานีส่งไปยังดาวเทียม แล้วให้ดาวเทียมนำสัญญาณส่งต่อไปยังสถานีรับที่อยู่ไกล ๆ
      - ประโยชน์
        
        ตรวจหาตำแหน่งของอากาศยาน เรียกว่า เรดาร์
        
        โดยส่งสัญญาณไมโครเวฟออกไปกระทบอากาศยาน และรับคลื่นที่สะท้อนกลับจากอากาศยาน
    - - รังสีอินฟาเรดมีช่วงความถี่ 1011 - 1014 Hz หรือความยาวคลื่นตั้งแต่ 10-3 - 10-6 เมตร
      - ช่วงความถี่คาบเกี่ยวกับไมโครเวฟ
      - ใช้เป็นการควบคุมระยะไกลหรือรีโมทคอนโทรลกับเครื่องรับโทรทัศน์
    - - แสงมีช่วงความถี่ 1014Hz หรือ ความยาวคลื่น 4x10-7 - 7x10-7 เมตร
      - คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ประสาทตาของมนุษย์รับได้
      - สเปกตรัมของแสง
        
        ม่วง 380-450 (nm)
        
        น้ำเงิน 450-500 (nm)
        
        เขียว 500-570 (nm)
        
        เหลือง 570-590 (nm)
        
        แสด 590-610 (nm)
        
        แดง 610-760 (nm)
    - - หรือ รังสีเหนือม่วง มีความถี่ช่วง 1015 - 1018 Hz
      - ส่วนใหญ่มาจากการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์
      - ทำให้เกิดประจุอิสระและไอออนในบรรยากาศชั้นไอโอโนสเฟียร์
    - - มีความถี่ช่วง 1016 - 1022 Hz มีความยาวคลื่นระหว่าง 10-8 - 10-13 เมตร
      - สามารถทะลุสิ่งกีดขวางหนา ๆ
      - การสร้างรังสีเอกซ์คือ การเปลี่ยนความเร็วของอิเล็กตรอน
      - ประโยชน์
        
        แพทย์
        
        ตรวจดูความผิดปกติของอวัยวะภายในร่างกาย
        
        อุตสาหกรรม
        
        ตรวจหาอาวุธปืนหรือระเบิดในกระเป๋าเดินทาง
        
        ศึกษาการจัดเรียงตัวของอะตอมในผลึก
    - - รังสีแกมมามีสภาพเป็นกลางทางไฟฟ้ามีความถี่สูงกว่ารังสีเอกซ์
      - คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์และสามารถกระตุ้นปฏิกิริยานิวเคลียร์ได้
      - มีอำนาจทะลุทะลวงสูง
- - - - การสะท้อนแสงเมื่อให้แสงไม่โพลาไรส์ตกกระทบผิววัตถุ