การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่เป็นโรคของต่อมธัยรอยด์
ธัยรอยด์เป็นพิษหรือภาวะฮอร์โมนธัยรอยด์สูง
Hyperthyroidism
อาการและอาการแสดง
ผลของโรคต่อการตั้งครรภ์
การรักษา
สร้างฮอร์โมน T3 และ T4 ออกมามากกว่าปกติ
ให้ยา PTU (propylthiouracil) เป็นยาต้านการทำงานของต่อมธัยรอยด์
ความดันโลหิตสูง
มือสั่น เหงื่อออกมาก ขี้ร้อน ทนร้อนไม่ได้
ผิวหนังอุ่น
ชีพจรเต้นเร็วแม้ในขณะนอนพัก
กินเก่ง กินจุ น้ำหนักลด ท้องเสียง่าย
อัตราการเต้นของหัวใจมากกว่า 100 ครั้ง/นาที
เหนื่อยล้า กล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง กล้ามเนื้อลีบ
ใจสั่น ใจหวิว
คอพอก ตาโปน เห็นภาพซ้อน
อารมณ์อ่อนไหว แปรปรวน หงุดหงิดโมโหง่าย
มารดา
ทารก
ภาวะหัวใจล้มเหลว
บางรายเสียชีวิตได้
ภาวะ preeclampsia
การแท้ง
คลอดก่อนกำหนด
ตายปริกำเนิด
การเจริญเติบโตช้าในครรภ์
แรกคลอดน้ำหนักน้อย
พิการแต่กำเนิด
ทารกในครรรภ์อาจเกิดภาวะธัยรอยด์เป็นพิษ เนื่องจากภูมิต้านทานของแม่ผ่านรกไปยังทารกในครรภ์
click to edit
ภาวะฮอร์โมนธัยรอยด์ต่ำ (Hypothyroidism)
ผลของโรคต่อการตั้งครรภ์
ทารก
มีปัญหาด้านพัฒนาการของสมอง IQ ต่ำ
น้ำหนักตัวทารกแรกเกิดน้อย
ตายในครรภ์
มารดา
แท้ง
คลอดก่อนกำหนด
ครรภ์เป็นพิษ
การรักษา
ให้ฮอร์โมนธัยรอยด์ T4 ทดแทน คือ
Levothyroxine (eltroxin)
Free T4 ต่ำ และระดับ TSH สูง
อาการและอาการแสดง
หนังตาบวม น้ำหนักเพิ่ม อ้วนขึ้น
ท้องผูก ขี้หนาว
ผมหยาบร่วง ผิวหนังแห้ง
เชื่องช้า เซื่องซึม เหนื่อย
อ่อนเพลีย
การพยาบาล
ระยะคลอด
ระยะหลังคลอด
ระยะตั้งครรภ์
อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์เข้าใจถึงอาการไม่สุขสบายรวมทั้งอารมณ์ของสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะต่อมธัยรอยด์ทำงานมากกว่าปกติ จะมีอารมณ์หงุดหงิดโมโหง่าย และอาการจะดีขึ้นเมื่อได้รับการรักษาด้วยยา PTU
แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีคุณค่า มีประโยชน์ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินสูง เพื่อชดเชยการเผาผลาญที่มีมาก
โดยแนะนำให้รับประทานครั้งละน้อยแต่บ่อยครั้งประมามณ 5-6 มื้อ/วัน
ดื่มน้ำมากๆ
หลีกเลี่ยง ชา กาแฟ แอลกอฮอล์
ระมัดระวังการเดิน การทรงตัว เพราะหญิงตั้งครรภ์จะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เหนื่อยง่ายมือสั่น
แนะนำให้นัการดิ้นของทารกในครรภ์ เพื่อประเมินภาวะสุขภาพของทารกในครรภ์
ในระยะที่ 1 ของการคลอด จัดให้ผู้คลอดนอนในท่าศีรษะสูง (fowler's position) ตะแคงด้านใดด้านหนึ่งเพื่อป้องกันภาวะความดันโลหิตต่ำจากการนอนหงายและปอดยายได้ดีขึ้น
ดูแลให้ผู้คลอดได้รับความสุขสบาย เช็ดตัวให้สะอาด เพื่อให้สามารถพักผ่อนได้ดีขึ้น ลดการใช้ออซิเจน
นอนพักบนเตียงในท่า semi-fowler's position เพื่อลดการทำงานของหัวใจและปอดขยายได้ดีขึ้น
ดูแลให้มารดารับประทานอาหารที่มีคุณค่าอย่างครบถ้วน และให้ได้ไอโอดีนอย่างเพียงพอวันละ 200 ไมโครกรัมในมารดาที่ให้นมบุตร
ทารกแรกเกิดจากมารดาที่ได้รับยา PTU เพื่อการรักษานั้นอาจมีการแสดงของต่อมธัยรอยด์ถูกกด จะมีอาการง่วงซึม เคลื่อนไหวช้า ไม่ค่อยร้อง
วัดสัญญาณชีพทุก 1-2 ชั่วโมง หากพบว่าชีพจรมากกกว่า 100/min อัตราการหายใจมากกว่า 24/min pulse pressure กว้างกว่า 40 mmHg อาจได้รับอันตรายจากภาวะหัวใจล้มเหลว ให้รีบรายงานแพทย์
ฟังเสียงหัวใจทารกทุก 15-30 นาที หรือใช้ fetal monitoring เพื่อประเมินสภาวะของทารกในครรภ์
และฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ทุก 5 นาทีในระยะที่ 2 ของการคลอด
ให้ผู้คลอดออกแรงเบ่งให้น้อยที่สุดเพราะการเบ่งจะทำให้หัวใจทำงานมากขึ้น แพทย์มักเลือกใช้สูติศาสตร์หัตถการช่วยคลอด