Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์ (…
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
จอห์ เนเฟีย ได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ใช้ช่วยในการคำนวณขึ้นมา เรียกว่า napire's bones มีลักษณะคล้ายกับตารางสูตรคูณในปัจจุบัน
เบลส์ ปาสคาล ได้ประดิษฐ์เครื่องบวกลบ โดยใช้หลักการหมุนของฟันเฟือง และการทดเลขเมื่อฟันเฟืองหมุนไปครบรอบ โดยแสดงตัวเลขจาก0-9ออกที่หน้าปัด
วิลเลียม ออตเทรต ได้ประดิษฐ์ไม้บรรทัดคำนวณ ซึ่งต่อมาเป็นพื้นฐารของการสร้างคอมพิวเตอร์แบบอนาล็อก
ดร.จอร์น ฟอน นิวเเมนน์ ได้สร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถสั่งเก็บคำสั่งการปฏิบัติงานทั้งหมดไว้ภายในเครื่อง ชื่อว่า EDVAC นับเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรก ที่สามารถเก็บโปรแกรมไว้ในเครื่องได้
ยุคของคอมพิวเตอร์
ยุคที่1 หลอดสูญญากาศ
-ใช้หลอดสูญญากาศและดรัมแม่เหล็กเป็นส่วนสำคัญ
-ดรัมแม่เหล้กถูกใช้เป็นหน่วยความจำหลัก
-หน่วยบันทึกข้อมูลสำรองที่ใช้เก็บข้อมูลและโปรแกรมอยู่ในรูปบัตรเจาะรู
-ปลายยุคใช้เทปแม่เหล็กเป็นหน่วยบันทึกข้อมูลสำรอง
-ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้จะอยู่ในรูปของภาษาเครื่องซึ่งเป็นตัวเลขฐานสองทั้งสิน
ยุคที่2 ทรานซิสเตอร์
-แทนที่หลอดสูญญากาศด้วยทรานซิสเตอร์
-หน่วยความจำพื้นฐานใช้ Magnetic core
-หน่วยบันทึกข้อมูลสำรอง เป็น Magnetic disk ซึ่งมีความเร็วสูง
-ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ถูกรวมไว้ในแผ่นวงจรพิมพ์ลาย
-ภาษาที่ใช้เป็นระดับสูงทำให้โปรแกรมได้สะดวกกว่ายุคแรกเนื่องจากไวยกรณ์คล้ายคลึงภาษาอังกฤษ
ยุคที่3 แผนวงจรรวม
-วงจรรวมซึ่งประกอบด้วยทรานซิสเตอร์ และวงจรไฟฟ้่าที่รวมอยู่บนแผ่นซิลิกอนเล็กๆ มาแทนการประกอบแผ่นวงจรพิมพ์ลาย
-มีมิคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1965 คือเครื่อง PDP-8
-มีการใช้งานเทอร์มินัลซึ่งเป็นจอคอมพิวเตอร์ที่สามารถติดต่อสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ได้ทางคีย์บอร์ด
ยุคที่4 แผนวงจรรวมขนาดใหญ่
-แผงวงจรรวมขนาดใหญ่และต่อมาพัฒนาเป็นแผงวงจรรวมขนาดใหญ่มาก
-เกิดMicroprocessorตัวแรกซึ่งเป็นการใช้แผ่นชิปแผ่นเดียวสำหรับเก็บหน่วยคุมและหน่วยคำนวณตรรกะของคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
-สามารถเก็บทรานซิสเตอร์ได้นััับล้านตัวไว้ในชิปเพัยงแผ่นเดียว
คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์
-ความเร็ว
-ความเชื่อถือได้
-ความถูกต้องแม่นยำ
-เก็บข้อมูลได้มาก
เคลื่อนย้ายข้อมูลได้รวดเร็ว
ส่วนประกอบที่สำคัญของระบบคอมพิวเตอร์
อาร์ดแวร์
ลักษณะทางกายภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งหมายถึง ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รอบข้างที่เกี่ยวข้องและสามารถจับต้องได้
การทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์มี 4 อย่าง
-หน่วยความจำหลัก
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการจดจำข้อมูล และโปรแกรมต่างๆที่อยู่ระหว่าวการประมวลผลของคอมพิวเตอร์
RAM แบบเก็บข้อมูลชั่วคราว เก็บข้อมูลอยู่ได้ แต่ต้องมีไฟเลี้ยง
ROM แบบเก็บข้อมูลถาวร เก็บข้อมูลอยู่ได้แม้ไม่มีไฟเลี้ยง
-หน่วยประมวลผล
ซีพียู:เปรียบเสมือนสมองของระบบคอมพิวเตอร์
CPU:รุ่นใหม่ๆจะมีขนาดเล็กลงแต่ความเร็วเพิ่มขึ้น มีวงภายในหน่วยประมวลผลกลางเรียกว่า ไมโครโปรเซสเซอร์
หน่วยควบคุม
หน่วยคำนวณและตรรกะ
-หน่วยแสดงผล
อุปกรณ์ที่แสดงผลลัพธ์จากคอมพิวเตอร์
-หน่วยแสดงผลชั่วคราว
จอภาพ
ลำโพง
โปรเจ็คเตอร์
-หน่วยแสดงผลถาวร
เครื่องพิมพ์
พล็อตเตอร์
-หน่วยรับข้อมูล
ทำหน้าที่รับข้อมูลจากผู้ใช้เข้าสู่หน่วยความจำหลัก ปัจจุบันมีอยู่มากมาย
-อุปกรณ์ชี้ตำแหน่ง=เมาส์
-อุปกรณ์แบบกด=แป้นพิมพ์
-อุปกรณ์บันทึกภาพ=กล้องดิจิตอล
ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รอบข้างที่เกี่ยวข้องต่างๆ ซึ้งประกอบไปด้วยส่วนสำคัญคือ หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจำหลัก หน่วยรับข้อมูล หน่วยแสดงผล หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง
ซอฟต์แวร์
คำสั่งหรื่อโปรแกรมจะเขียนขึ้นมาจากทภาษาคอมพิวเตอร์และมีโปรแกรมเมอร์เป็นผู้เขียน
ซอฟต์แวร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ซอฟต์แวร์ระบบ
ซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์และประสานงานระหว่างซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และผู้ใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ (Operating System)
โปรแกรมแปลภาษาคอมพิวเตอร์ (Translator)
โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Program)
โปรแกรมขับอุปกรณ์ (Device Driver)
ซอฟต์แวร์ประยุกต์
เป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทพัฒนาขึ้นและจัดจำหน่ายเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นใช้เอง ซอฟต์แวร์สำเร็จที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป
ซอฟต์แวร์ประมวลคำ
เป็นซอฟต์แวร์ที่ออกแบบสำหรับการพิมพ์เอกสาร สามารถแก้ไข เพิ่ม แทรก ลบ และจัดรูปแบบเอกสารได้อย่างดี เอกสารที่พิมพ์และจัดเก็บไฟล์ สามารถแก้ไข และพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์ได้ ซอฟต์แวร์ประมวลคำ
ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน
เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการคิดคำนวณ การทำงานของซอฟต์แวร์ตารางทำงานใช้หลักการเสมือนมีโต๊ะทำงานที่มีกระดาษขนาดใหญ่วางไว้ มีเครื่องมือคล้ายปากกา ยางลบ และเครื่องคำนวณ บนกระดาษมีช่องให้ใส่ตัวเลข ข้อความหรือสูตร สามารถสั่งให้คำนวณตามสูตรหรือเงื่อนไขที่กำหนด หรือสามารถสร้างคำสั่งหรือสูตรเพื่อใช้งานเฉพาะได้
ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล
เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการเก็บข้อมูล ผู้ใช้สามารถใช้ ปรับปรุง และค้นคืน ข้อมูลได้ง่าย ทั้งยังสามารถสร้างรายงานหรือสรุปผลข้อมูลได้หลายรูปแบบ ซอฟต์แวร์นี้จะมีการจัดเก็บทั้งค่าข้อมูลพร้อมโครงสร้างข้อมูล เพื่อช่วยลดความซ้ำซ้อน และความขัดแย้งของข้อมูลตลอดจนช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและใช้ข้อมูลร่วมกันได้ ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล
ซอฟต์แวร์กราฟิกและสื่อประสม
เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สร้าง ออกแบบ วาด ตกแต่ง แสดงเอกสารหรือรูปภาพ และจัดการสื่อที่ประกอบด้วยภาพนิ่ง เสียง ข้อความ ภาพเคลื่อนไหว สะดวกต่อการนำไปใช้งานด้านกราฟิกและสื่อประสม ซอฟต์แวร์กราฟิกและสื่อประสม
ซอฟต์แวร์สื่อสาร
เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก ซึ่งให้ความสะดวกและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลข่าวสาร การซื้อขายสินค้า การศึกษา โดยใช้ซอฟต์แวร์สื่อสารเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่าย
การเลือกใช้ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์มีหลายประเภทด้วยกัน ดังนั้นการเลือกใช้ซอฟต์แวร์จึงต้องพิจารณาให้เหมาะสม ข้อควรพิจารณาในการเลือกใช้ซอฟต์แวร์
การเลือกใช้ซอฟต์เเวร์ให้เหมาะสมกับงาน
การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับทรัพยากร
การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับงบประมาณ
การใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่ละเมิดลิขสิทธิ์
บุคคลากร People ware
ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์
-ผู้จัดการ
-นักวิเคราะห์ออกแบบระบบ
-วิศวกรคอมพิวเตอร์
-พนักงานควบคุมเครื่อง
-นักเขียนโปรแกรม
-พนักงานเตรียมข้อมูล
-ผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน
ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์
-มินิคอมพิวเตอร์
-ไมโครคอมพิวเตอร์
-เมนเฟรม
-แท็บเล็ต
-ซูเปอร์คอมพิวเตอร์
-คอมพิวเตอร์แบบฝังตัว
ระบบอินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ มีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโทคอล (protocol) ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลาย ๆ ทาง อาทิ อีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบค้นข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ รวมทั้งคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้
ISP หรือ Internet Service Provider เป็นหน่วยงานที่ให้บริการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือ ทำหน้าที่เสมือนเป็นประตูเปิดการเชื่อมต่อให้บุคคลหรือองค์กรสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ สำหรับในประเทศไทยมีหน่วยงานที่ให้บริการด้านนี้อยู่ 2 ประเภทด้วยกัน
โปรโตคอล คือ ข้อกำหนดหรือข้อตกลงในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ หรือภาษาสื่อสารที่ใช้เป็น ภาษากลางในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ด้วยกัน การที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกเชื่อมโยงกันไว้ในระบบจะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้นั้น จำเป็นจะต้องมีการสื่อสารที่เรียกว่า โปรโตคอล (Protocol)
โปรโตคอล HTTP หรือ Hypertext Transfer Protocol จะใช้เมื่อเรียกโปรแกรมบราวเซอร์ (Browser)
โปรโตคอล TCP/IP หรือ Transfer Control Protocol/Internet Protocolคือเครือข่ายโปรโตคอลที่สำคัญมากที่สุด เนื่องจากเป็นโปรโตคอลที่ใช้ในระบบเครือข่าย Internet รวมทั้ง Intranet ซึ่งประกอบด้วย 2 โปรโตคอลคือ TCP และ IP
โปรโตคอล SMTP หรือ Simple Mail Transfer Protocol คือ โปรโตคอล ที่ใช้ในการรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
บริการต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) การติดต่อสื่อสารโดยใช้อีเมลสามารถทำได้โดยสะดวก และประหยัดเวลา หลักการทำงานของอีเมลก็คล้ายกับการส่งจดหมายธรรมดา นั้นคือ จะต้องมีที่อยู่ที่ระบุชัดเจน ก็คือ อีเมลแอดเดรส (E-mail address) องค์ประกอบของ e-mail address
บริการสนทนาบนอินเทอร์เน็ต (Instant Message) การสนทนาบนอินเทอร์เน็ตคือ การส่งข้อความถึงกันโดยทันทีทันใด นอกจากนี้ยังสามารถส่งสัญลักษณ์ต่างๆ อาทิ รูปภาพ ไฟล์ข้อมูลได้ด้วย การสนทนาบนอินเทอร์เน็ตเป็นโปรแกรมที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน โปรแกรมประเภทนี้
เวิลด์ไวด์เว็บ (WWW) เวิลด์ไวด์เว็บ หรือเครือข่ายใยแมงมุม เหตุที่เรียกชื่อนี้เพราะว่าเป็นลักษณะของการเชื่อมโยงข้อมูล จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเรื่อยๆ เวิลด์ไวด์เว็บ เป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในการเรียกดูเว็บไซต์ต้องอาศัยโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ (web browser) ในการดูข้อมูล เว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมใช้ในปัจจุบัน
บริการกระดานข่าวหรือ เวบบอร์ด (Web board)เว็บบอร์ด เป็นศูนย์กลางในการแสดงความคิดเห็น มีการตั้งกระทู้ ถาม-ตอบ ในหัวข้อที่สนใจ เว็บบอร์ดของไทยที่เป็นที่นิยมและมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย คือ เว็บบอร์ดของพันธ์ทิพย์ (
http://www.pantip.com
)
ประโยชน์และโทษของอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องเทคโนโลยีสื่อสารที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้แกผู้ใช้บริการ ในลักษณะของการสื่อสารที่ผ่านทางคอมพิวเตอร์ และช่องทางการสื่อสารชนิดต่างๆ ไม่ได้เป็นการสื่อสารจากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่งโดยตรง จึงทำให้เกิดทั้งประโยชน์และโทษในการสื่อสารบนอินเทอร์เน็ต
3.เปรียบเสมือนเวที่ให้เข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ภายในห้องสนทนา(chat room) และกระดานข่าว(Web room) เป็นการเปิดโลกกว้างและวิสัยทัศน์ในเรื่องที่น่าสนใจ
4.สามารถติดตามเคลื่อนไหวจากข่าวสารทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
2.สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆได้เสมือนกับเราไปนั่งอยู่ที่ห้องสมุดขนาดใหญ่ได้ข้อมูลมากมายจากทั่วทุกมุมโลก
5.สามารถเปิดการค้าได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องหาที่จัดตั้งร้านหรือพนักงานบริการ แต่สามารถทำการค้าได้ด้วยตัวเองคนเดียว
1.สามารถติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นทั่วโลก