Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

:explode:METAL DEFORMATION PROCESSES :explode: (Chapter 1 Introduction to…

- - - - การรีดร้อนและรีดเย็น
        
        การรีดร้อน
        
        การรีดเย็น
      - การควบคุมความแบน
      - การจัดวางลูกรีด
        
        แบบสองลูกรีด
        
        แบบสามลูกรีด
        
        แบบสี่ลูกรีด
        
        แบบกลุ่มลูกรีด
        
        แบบลูกรีดเรียงตามกัน
    - - การรีดขึ้นรูปวงแหวน
      - การรีดขึ้นรูปเกลียว
      - การแทงรีดขึ้นรูป
  - - - แรงที่ใช้ตีขึ้นรูป
      - ลักษณะการตีขึ้นรูป
    - - แรงที่ใช้ตีขึ้นรูป
      - การตีขึ้นรูปชิ้นงานไร้ครีบ
    - - การตีขึ้นรูปเหรียญ
      - การตีขึ้นรูปหัว
      - การตีขึ้นรูปโดยการตอก
      - การตีรีดขึ้นรูป
      - การตีขึ้นรูปแบบวงโคจร
      - การตีขึ้นรูปแบบฮับบิง
      - การตีขึ้นรูปแม่พิมพ์ร้อน
  - - - การอัดรีดขึ้นรูปโดยตรง
      - การอัดรีดขึ้นรูปโดยอ้อม
      - แรงที่ใช้ในการอัดรีดขึ้นรูป
      - การไหลตัวของโลหะขณะอัดรีดขึ้นรูป
      - การอัดรีดขึ้นรูปร้อนและเย็น
    - - การกระแทกอัดรีดขึ้นรูป
      - การอัดรีดขึ้นรูปโดยแรงดันของของเหลว
- - - - Tooling
      - Power
      - Machinery
      - labor
- - - - 2.Face-Center Cubic (FCC) จะมีอะตอมอยู่ทุกมุมและกึ่งกลางด้านทุกด้านบริเวณผิวหน้าของหน่วยเซลล์ โลหะที่มีผลึกแบบนี้ ได้แก่ อะลูมิเนียม ทองแดง ทองคำ เหล็กแกมมา
      - 1.Body-Center Cubic (BCC) จะมีอะตอมอยู่ที่มุมทั้ง 8 มุมและกึ่งกลางหน่วยเซลล์อีกหนึ่งอะตอม โลหะที่มีผลึกแบบนี้ ได้แก่ โครเมียม เหล็กแอลฟา โมลิบดีนัม
      - 3.Hexagonal-Close-Packed (HCP) โครงสร้างผลึกมีลักษณะเป็นรูปทรงหกเหลี่ยม โดยอะตอมจะอยู่ที่มุมทั้ง6มุมทั้งด้านบนและด้านล่างและอยู่กึ่งกลางบริเวณผิวหน้าของรูปทรงหกเหลี่ยมด้านบนและด้านล่างอีกด้านละหนึ่งลูก ส่วนบริเวณด้านในผิวหน้าในแนวตั้งจะมีอะตอมอยู่กึ่งกลางโดยอยู่ด้านเว้นด้าน ทำให้มีอะตอมอยู่3อะตอม โลหะที่มีผลึกแบบนี้ ได้แก่ แคดเมียม สังกะสี แมกนีเซียม โคบอลต์
    - - :warning: ความไม่สมบูรณ์แบบจุด (Point Defects)
        เกิดขึ้นเฉพาะที่จุดใดจุดหนึ่ง โดยสาเหตุเกิดจากอะตอมเพียงไม่กี่ตัว ซึ้งสามารถแบ่งได้ดังนี้
        
        :red_cross: การเกิดช่องว่าง (Vacancy) เกิดจากอะตอมในโครงสร้างผลึกบางตัวหายไปจากตำแหน่งที่ควรจะอยู่จึงทำให้เกิดช่องว่างขึ้น
        
        :warning:สาเหตุของการเกิดช่องว่างของอะตอมอาจเกิดจากการถูกทำให้เย็นตัวอย่างรวดเร็ว การขึ้นรูป หรือการถูกอนุภาคบางอย่างวิ่งชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นโอกาสเกิดช่องว่างของอะตอมยิ่งมีสูงขึ้นตามไปด้วย
        
        :red_cross: การแทรกที่ของอะตอม (Interstitial defect) เป็นจุดบกพร่องที่เกิดจากอะตอมของธาตุหนึ่งแทรกเข้าไปอยู่ระหว่างแลตทิซของผลึกของผลึกของอะตอมอีกธาตุหนึ่ง โดยอะตอมที่เข้าไปแทรกที่นั้นจะทำให้แลตทิซของโครงสร้างผลึกเดิมขยายขึ้นจนทำให้เกิดการบิดเบี้ยวเกิดขึ้น
        
        :red_cross: การแทนที่ของอะตอม (Substitutional) เกิดจากอะตอมของธาตุหนึ่งเข้าไปแทนที่อะตอมของอีกธาตุหนึ่งในตำแหน่งเดิมของอะตอม โดยการแทนที่ของอะตอมตัวใหม่อาจมีขนาดที่เล็กกว่าหรือโตกว่าซึ้งส่งผลทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของโครงสร้างผลึกเกิดขึ้น
      - :warning: Schottky จุดบกพร่องแบบช็อตต์กี
      - :warning: Frenkel จุดบอกพร่องแบบเฟรนเคล
      - :warning: Line defect ความไม่สมบูรณ์แบบเส้น
        
        :warning: 1.Edge dislocation
        
        :warning: 2.Screw dislocation
      - :warning: Planar defect ความไม่สมบูรณ์แบบระนาบ
    - - Deformation by Slip in Single Crystal
      - Deformation by Twin in Single Crystal
      - 3.Deformation in Poly-crystal
    - - Recrystallization
      - Grain Growth
      - Recovery
    - - :fire: Hot Working (ขึ้นรูปอุณหภูมิเหนือ Recrystallization temperature)
      - :fire: Cold Working (ขึ้นรูปอุณหภูมิต่ำกว่า Recrystallization temperature)
  - - - :no_entry: Stress หมายถึง แรงต้านทานภายในเนื้อวัสดุที่พยายามต้านทานแรงภายนอกที่มากระทำเพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนรูปไปจากเดิม
        
        1.Tensile stress
        
        3.Shear stress
        
        2.Compressive stress
      - :no_entry: Strain คือ การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของวัสดุมื่อมีแรงภายนอกมากระทำหรือมีความเค้น
        
        1) Elastic deformation or elastic strain วัสดุเกิดการเปลี่ยนรูปเมื่อถูกแรงกระทำและเมื่อปลดแรงกระทำออกจะกลับสู่ภาพเดิมได้ 100%
        
        2) Plastic deformation or plastic strain วัสดุเกิดการเปลี่ยนรูปเมื่อถูกแรงกระทำและปลดแรงกระทำออกวัสดุจะกลับสู่ภาพเดิมได้ไม่ครบ 100%
    - - Engineering Stress Strain Curve
        
        Yield strength (ความแข็งแรง ณ จุดคราก) หมายถึง จุดที่วัสดุเริ่มต้นการ เปลี่ยนรูปอย่างถาวร
        
        Proportional limit
        
        Elastic limit
        
        Yield point
        
        Fracture point
        
        Ultimate tensile strength
        
        Tensile strength
        
        Modulus of elasticity
        
        เปอร์เซ็นต์การยืดตัวและการลดลงของพื้นที่หน้าตัด
        
        True stress and true strain
        
        Strain hardening
    - - Brinell Hardness Test
      - Vicker Hardness Test
      - Rockwell Hardness Test
      - Micro Vicker Hardness Test
      - Knoop Hardness Test
      - Shore scaleroscope Hardness Test
      - Mohs's scale
    - - ช่วงสอง
      - ช่วงสาม
      - ช่วงแรก
    - - Ductile Fracture
      - Brittle Fracture
      - Fatigue Fracture
        
        2) การขยายตัวของรอยแตก (crack propagation)
        
        3) เกิดการแตกหัก (final failure)
        
        1) จุดเริ่มต้นการแตก (crack initiation)
  - - - Melting Point
      - Heat capacity
      - Specific heat
      - Thermal Expansion
      - Thermal conductivity
    - - Electrical property
      - สภาพการนำไฟฟ้าของวัสดุ
      - Dielectric
      - Dielectric constant
      - สภาพเพียโซอิเล็กทริก
      - สมบัติทางแม่เหล็ก
      - สภาพแม่เหล็กแบบพารา
      - สภาพแม่เหล็กแบบเฟอร์โร
      - สมบัติทางแสง
  - - - การกัดกร่อนแบบไฟฟ้าเคมี