Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Contraception (ยาฝังคุมกำเนิด หรือ ยาคุมกำเนิดแบบฝัง (Contraceptiveimplant…
Contraception
ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth Control Pill)
ยาคุมฉุกเฉิน
เป็นยาที่ผลิตคิดค้นออกมาเพื่อใช้เฉพาะในเหตุการณ์ฉุกเฉินและจำเป็นเท่านั้น โดยจะเกิดผลดีหากใช้ในทางที่ถูกต้อง
วิธีใช้
ต้องกินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรก “ให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน”หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ให้ได้ผลดีไม่ควรเกิน 72ชั่วโมง หรือ 3 วัน และจะให้ผลดีที่สุดคือไม่เกิน 12 ชั่วโมง และกินยาคุมฉุกเฉิน (เม็ดที่ 2) ซ้ำอีก 1 เม็ด หลังจากกินยาเม็ดแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง
.เพื่อความสะดวก สามารถกินยาคุมฉุกเฉินได้พร้อมกัน 2 เม็ดในครั้งเดียว
ในกรณีที่กินยาในแต่ละเม็ด แล้วเกิดอาเจียนหรืออ้วกออกมาภายใน 2 ชั่วโมง จะต้องกินยาใหม่ ซ้ำอีก 1 เม็ดในทันที
ไม่แนะนำให้กินยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 กล่อง หรือ 4 เม็ดต่อเดือน
ส่วนประกอบ
Yuzpe regimen โดยใช้ยาฮอร์โมนผสมระหว่าง ยาฮอร์โมน Ethinyl estradiol และ ยาฮอร์โมนLevonorgestrel คล้ายยาเม็ดคุมกำเนิดแต่ปริมาณตัวยาสูงกว่า
ยาLevonorgestrel เพียงชนิดเดียว เป็นยาฮอร์โมนโปรเจสเตโรนที่มีขนาดสูง ชื่อทางการค้าที่รู้จักกันดีคือ Postinor
Mifepristone (RU-486) มีฤทธิ์ต่อต้านฮอร์โมนโปรเจสเตโรน ไม่มีจำหน่ายในบ้านเราและในสหรัฐอเมริกา มีใช้ในบางประเทศเท่านั้น
ห่วงทองแดงคุมกำเนิด (Copper intrauterine contraception หรือ Copper IUD)
ผลข้างเคียง
ปวดท้อง
มีเลือดออกกะปริดกะปรอย
ประจำเดือนมาเร็วหรือช้ากว่าปกติ
โดยผลข้างเคียงเหล่านี้จะหายไปเองเมื่อไม่ได้ใช้ยา
ข้อห้าม
สามารถใช้ได้แม้ว่าผู้ใช้จะมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการใช้ฮอร์โมน เช่น โรคหัวใจ โรคลิ่มเลือดอุดตัน โรคไมเกรน หรือโรคตับ เพราะการใช้ยาเพียงครั้งเดียว ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าความเสี่ยงที่จะปล่อยให้ตั้งครรภ์
ยาเม็ดคุมกำเนิด
ชนิด
ยาเม็ดคุมกำ เนิดที่มีโปรเจสโตเจนอย่างงเดียว (progestogen-only pills)
ยาเม็ดคุมกำนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined oral contraceptives)
ฮอร์โมนเอสโตรเจน
โปรเจสโตเจน
ใช้กินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์แบบชั่วคราวประกอบด้วยฮอร์โมน
วิธีการใช้
1.เริ่มต้นรับประทานระหว่าง วันที่ 1- 5 ของรอบระดูและควรรับประทานใหเป็นเวลาเดียวกันทุกวัน
2.ยาเม็ดคุมกำ เนิดชนิด 21 เมด็ ทุกเม็ด จะมีฮอร์โมน เมื่อรับประทานหมดแผงแล้ว
ต้องงดเว้นการรับประทาน 7 วนั เพื่อให้มีระดู แล้วจึงเริ่มรับประทานแผงใหม่
ยาคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ดนับ 21 เม็ด แรกเป็นฮอร์โมน ส่วนอีก 7 เมด็ เป็นยาหลอก
ดังนั้นจึงรับประทานเริ่มยาที่เป็นฮอร์โมนวันละเม็ดได้ทุกวัน ไม่ต้องงด ซึ่งประจำเดือนจะมาในช่วงการ รับประทานยาหลอก7เม็ดนั้น
เมื่อมีการลืม
ลืมรับประทานยาเม็ดฮอร์โมน 1 เม็ด รีบรับประทานยาเม็ด ที่ลืมทันทีเมื่อนึกได้ และรับประทานยา เม็ด
ต่อไปตามเวลาปกติที่เคยรับประทานหากนึกได้พร้อมเม็ดต่อไปให้ทานพร้อมกนั 2เม็ด ในเวลา ปกติที่เคยรับประทาน
ลืมรับประทานยาเมด็ฮอร์โมน 2เม็ด ให้รับประทานยาเมด็คุมกำเนิดเพิ่ม1เม็ดในเวลาปกติที่เคย รับประทานเป็ นเวลา 2 วัน และวัน ถัด มาให้รับประทานยาเม็ดคุมกำ เนิดวันละ 1 เม็ดในแผง ตามปกติจนหมดแผง
ลืมรับประทานยาเม็ดฮอร์โมน 3 เม็ด ให้หยุดรับประทานยา เม็ดคุมกำเนิดในรอบระดูนั้นแล้วรอให้ประจำเดือนมาจึงเริ่มรับประทาน
ลืมรับประทานยาหลอก ให้รับประทานยาไปตามปกติ
ข้อห้ามของการรับประทานยา
สตรีที่ให้นมบุตรหรืออยู่ในช่วงหลัง คลอดน้อยกว่า6 สัปดาห์
มีประวัติหรือป่วยด้วยโรคหัวใจขาดเลือด(ischemicheartdisease/stroke)
โรคลิ้นหัว ใจที่มีภาวะแทรกซ้อน
สตรีอายุ35ปีขึ้นไปและสูบบุหรี่
เป็นโรคความดันโลหิตสูง
ปวดศีรษะ migraine หรืออายุ 35 ปี ขึ้นไป
โรคเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อนของระบบหลอดเลือด
เป็นหรือเคยเป็นเสน้ เลือดดำอุดตัน
การผ่าตัดใหญ่ที่ต้องนอนพักเป็นระยะเวลานาน
สตรีที่มีแนวโน้มความเสี่ยงต่อการผิดปกติของการอุดตันของเส้นเลือด
มะเร็งเต้านม
โรคตับอักเสบ ตัว เหลือง ตาเหลืองและโรคตับแข็ง
มีก้อนหรือเป็นมะเร็งที่ตับ
อาการข้างเคียง
คลื่นไส้ อาเจียน เป็นอาการที่พบได้ในระยะเริ่มต้นรับประทานยา 1 – 2 แผงแรก
แนะนำ ให้รับประทานยาหลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน
ปวดศีรษะตึงคัดเต้านม
หน้าเป็นสิวฝ้า
เลือดออกกะปริดกะปรอย
ไม่มีประจำเดือน
ความดันโลหิตสูง
น้ำหนักตัวเพิ่ม
ความรู้สึกทางเพศเปลี่ยนแปลง
อารมณ์เปลี่ยนแปลง
10.อาการอาเจียนท้องเสียรุนแรงขณะใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
ห่วงอนามัย (Intrauterine device : IUD )
เป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบชั่วคราวชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กัน
ห่วงคุมกำเนิด
เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ชิ้นเล็กๆที่ใส่เข้าไปโพรงมดลูกสตรี
ทำให้สภาพในโพรงมด ลูกไม่เหมาะในการฝังตัวของตัวอ่อนมนุษย์ในโพรงมดลูก
ชนิด
ห่วงอนามัยที่มีสารหรือฮอร์โมนเคลือบ (Medicated IUD)
ห่วงอนามัยที่เคลือบด้วยสารทองแดง (Copper IUD)
Multiload 375 A
รูปร่างเป็นก้างปลา
อายุการใช้งาน 5 ปี
นิยมใช้กันแพร่หลาย
Copper T 380A
รูปร่างเป็นตัว T
อายุการใช้งาน 10 ปี
Multiload 250 A
รูปร่างเป็นก้างปลา
อายุการใช้งาน 3 ปี
ห่วงอนามัยที่เคลือบด้วยฮอร์โมน (Hormonal IUD)
อาการปวดประจำเดือนลดลง
ทำให้ประจำเดือนออกน้อยลง
มีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง
อายุการใช้งาน 5 ปี
มีลักษณะคล้ายตัวห่วง Copper T
ฮอร์โมนที่นำมาใช้ คือ Levonorgestrel
ห่วงอนามัยที่ไม่มีสารหรือฮอร์โมนเคลือบ (Non-medicated IUD)
อายุการใช้งานสามารถใช้ต่อไปได้นานไม่มีกำหนด
Lippes loop
ลักษณะเป็นเส้นพลาสติกยาวแล้วขดเป็นรูปตัว S 2 ชั้น
การใส่ห่วงอนามัย
ใส่โดยแพทย์หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
แพทย์อาจแนะนำให้รับประทานยาบรรเทาอาการปวดในช่วง 2-3 ชั่วโมงก่อนเริ่มขั้นตอนการใส่ เพราะการใส่ห่วงอนามัยอาจทำให้เกิดอาการปวดเกร็งที่ท้องได้
ขั้นตอนการใส่
ผู้ที่เข้ารับการใส่ห่วงอนามัยต้องขึ้นไปนั่งบนขาหยั่ง
แพทย์จะนำท่อขนาดเล็กที่มีห่วงอนามัยสอดเข้าไปในช่องคลอด และดันท่อเข้าไปจนถึงบริเวณมดลูก แล้วค่อย ๆ ดันห่วงอนามัยออกจากท่อ เมื่อเข้าที่ดีแล้วจึงนำท่อออกมา โดยจะมีเชือกที่ยึดติดกับห่วงอนามัยยื่นออกมาจากช่องคลอดประมาณ 1-2 นิ้ว
ใช้เวลา 1-2 วันกว่าอาการปวดเกร็งหรือเลือดออกทางช่องคลอดจะหายไป
4.แนะนำให้ใส่ห่วงอนามัยในช่วงมีประจำเดือนเพื่อลดอาการเจ็บปวด เนื่องจากเป็นช่วงที่ปากมดลูกขยายตัวออกมากที่สุด ทำให้ง่ายต่อการใส่ห่วงอนามัยจะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดทันที แต่ในกรณีที่ใส่ห่วงอนามัยชนิดเคลือบฮอร์โมนในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน อาจต้องรออย่างน้อย 7 วัน สารจากห่วงอนามัยจึงจะเริ่มออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
การนำห่วงอนามัยออก
ทำโดยแพทย์หรือพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญ
ห้ามพยายามนำออกด้วยตัวเอง
อาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงกับมดลูกหรือช่องคลอดได้
อาจมีอาการปวดเกร็งท้องหรือมีเลือดออกทางช่องคลอดประมาณ 1-2 วัน ก่อนจะหายเป็นปกติ
การปฏิบัติตัวขณะใส่ห่วงอนามัย
ไม่ควรสวนล้างช่องคลอด
มีการตรวจคลำสายห่วงในช่องคลอดเป็นระยะๆ โดยเฉพาะเมื่อเลือดประจำเดือนหยุดไหล (แพทย์จะเป็นผู้แนะนำถึงวิธีการนี้)
ดูแลรักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศภายนอกตามปกติ
ในช่วง 1-3 เดือนแรกหลังการใส่ห่วงอนามัย ประจำเดือนอาจมามาก หรือมานานกว่าปกติได้ และถ้ามีอาการปวดประจำเดือน สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
หากมีไข้ หรือ ตกขาวมีกลิ่นเหม็น หรือปวดท้องอย่างรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์
การใส่ห่วงอนามัยไม่ได้ขัดขวางการร่วมเพศ และไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดต่ออวัยวะเพศของสามี แต่หากสามีมีอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่า มีการเคลื่อนที่ของห่วงอนามัย หรือห่วงอนามัยหลุดออกมาอยู่ในช่องคลอดหรือไม่
ห่วงอนามัยป้องกันการตั้งครรภ์
ทำให้ไข่ที่ผสมแล้วไม่สามารถฝังตัวได้ในโพรงมดลูก
ทำให้เกิดสภาพที่ไม่เหมาะสมสำหรับการฝังตัวขึ้นที่เยื่อบุมดลูก หรือ ที่ผนังมดลูก
โดยจะมีเม็ดเลือดขาวมาอยู่บริเวณนี้จำนวนมาก
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในโพรงมดลูก
ทำให้เชื้อของฝ่ายชายไม่สามารถผ่านไปผสมกับไข่ได้ หรือสูญเสียความสามารถในการผสมพันธุ์ไป
สตรีที่เหมาะสมสำหรับการคุมกำเนิดโดยการใส่ห่วงอนามัย
มีข้อห้ามในการใช้การคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน
อ้วนมาก
มีผลให้ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดด้วยยาฮอร์โมนลดลง
ยาฮอร์โมนอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอีก
ต้องการเว้นช่วงการมีบุตรประมาณ 3-5 ปี หรือนานกว่านั้น
หลงลืมในการรับประทานยาง่าย
ให้นมบุตร
ข้อดี
ไม่ต้องรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดทุกวัน
ไม่มีผลข้างเคียงของฮอร์โมนที่เป็นส่วนประกอบของยาเม็ด หรือ ยาฉีดคุมกำเนิด
คุมกำเนิดได้ระยะยาว 3-10 ปี แล้วแต่ชนิดของห่วง
สามารถกลับมาตั้งครรภ์หลังถอดห่วงอนามัย โดยตั้งครรภ์ได้เร็วกว่าสตรีที่ใช้ยาเม็ดหรือยาฉีดคุมกำเนิด
มีประจำเดือนมาทุกเดือนเหมือนปกติ ทำให้รู้สึกสบายใจ
ข้อเสีย
ประจำเดือนออกมาก (ห่วงอนามัยที่มีทองแดงพันอยู่)
ปวดประจำเดือน (ห่วงอนามัยที่มีทองแดงพันอยู่)
เลือดออกทางช่องคลอดกระปริบกะปรอย
มีตกขาวมากกว่าปกติ เนื่องจากมีสายห่วงที่อยู่ในช่องคลอด
เสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานในสตรีที่มีคู่นอนหลายคน
ห่วงอนามัยอาจทะลุเข้าไปในช่องท้องได้ (พบได้ไม่บ่อย)
มีโอกาสตั้งครรภ์นอกมดลูก
ยาฉีดคุมกำเนิด (Injectable contraceptive)
ยาฉีดคุมกำเนิดเป็นวิธีคุมกำเนิดชั่วคราวโดยทำการฉีดฮอร์โมนเข้ากล้ามเนื้อ เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง มีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์เพียง 0.3% เหมาะสมสำหรับสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่มีบุตรแล้วและ ต้องการเว้นช่วงการมีบุตร
ชนิดของยาฉีดคุมกำเนิด
ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว
1.1 Norethisterone enanthate ขนาด 200 มิลลิกรัม ละลายในน้ำมัน บรรจุในหลอดขนาด 1 มิลลิลิตร ฉีดเข้ากล้ามเนื้อใช้คุมกำเนิดได้นาน 2 เดือน
1.2 Depot medroxy progesterone acetate (DMPA) มีลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวขนาดเล็ก ละลายตกตะกอน ขนาด 150 มิลลิกรัม ขนาด 3 มิลลิลิตร ฉีดเข้ากล้ามเนื้อสะโพก คุมกำเนิดได้นาน 3 เดือน
ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและ โปรเจสเตอโรน ฉีดเข้ากล้ามเนื้อทุก 4 สัปดาห์ ที่มีใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ Cyclofem Lunelle Mesigyna
การใช้ยาฉีดคุมกำเนิด
ควรฉีดยาเข็มแรกภายใน 5-7 วันของรอบประจำเดือน ถ้าจำเป็น ต้องใช้ยาฉีดภายหลังวันที่ 7
ของรอบประจำเดือน ควรงดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยาง อนามัยไปอีก 7 วันหลังจากฉีดยา
ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ หรือจำประจำเดือนไม่ได้ หรือหลังคลอด 6 เดือน แล้วประจำเดือนยังไม่มา ควรตรวจว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ก็สามารถรับการฉีดยาได้ โดยต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยาง อนามัยไปอีก 7 วันหลังจากฉีดยาคุมกำเนิดแล้ว มารดาหลังคลอดน้อยกว่า 6 เดือนให้นมบุตรและยังไม่มีประจำเดือน สามารถใช้ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดนี้ได้เลย แต่ถ้ามีประจำเดือน แล้วควรเริ่มเข็มแรกไม่เกิน 7 วันของรอบประจำเดือน
สตรีที่ใช้วิธีคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนอยู่ สามารถเปลี่ยนมาใช้ยาฉีดคุมกำเนิดได้ทันที โดยไม่ต้อง ใช้วิธีคุมกำเนิดชนิดอื่นอีก 7 วัน
สตรีที่ใช้วิธีคุมกำเนิดที่ไม่ใช่ฮอร์โมน เช่น ห่วงอนามัย เปลี่ยนมาใช้วิธีคุมกำเนิดชนิดฉีดได้ถ้าแน่ใจว่าไม่ตั้งครรภ์และอยู่ในช่วง 7 วันของ รอบประจำเดือน
สตรีหลังแท้งควรฉีดยาภายใน 7 วันหลังแท้ง
เทคนิคในการฉีดยา
ยาฉีดชนิด DMPA ต้องเอียงขวดไปมาให้สารตกตะกอนกระจายทั่วถึงอย่างช้าๆ ถ้าเขย่า รุนแรงอาจทำให้เป็นฟองและยากต่อการดูดยาเข้าไปในหลอดได้เต็มจำนวน
การฉีดยาควรฉีดเข้ากล้ามเนื้อสะโพก เพื่อให้มีการดูดซึมอย่างช้า ๆ และแนะนำผู้รับ บริการว่าไม่ควรคลึงบริเวณที่ฉีด เพราะจะทำให้ยามีการดูดซึมเร็วขึ้น ทำให้ยาหมดฤทธิ์ เร็วกว่ากำหนด
อาการข้างเคียง
ประจำเดือนกะปริดกะปรอย
มีประจำเดือนมากหรือมีนานกว่า 8 วัน
ไม่มีประจำเดือน
น้ำหนักตัว อาจขึ้นได้1-2 กิโลกรัม ใน 1 ปี
ข้อห้ามใช้ยาฉีดคุมกำเนิด
มะเร็งเต้านม
เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดที่ยังไม่ทราบสาเหตุ
มารดาหลังคลอดใหม่ไม่ถึง 6 สัปดาห์ ที่เลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา ความดันโลหิตสูงกว่า 160/100 มม.ปรอท และมีโรคของหลอดเลือด
โรคเส้นเลือดอุดตัน
โรคหัวใจขาดเลือด
เป็น migraine ที่มีaura
เคยเป็นมะเร็งเต้านมเกินกว่า 5 ปี
เบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได้หรือมีโรคไต โรคเส้นเลือด
กำลังเป็นโรคตับอักเสบ หรือโรคตับแข็ง
เนื้องอกหรือมะเร็งตับ
ยาฝังคุมกำเนิด หรือ ยาคุมกำเนิดแบบฝัง (Contraceptiveimplant)
วิธีการคุมกำเนิดแบบชั่วคราว
การใช้ฮอร์โมน โปรเจสติน (Progestin) บรรจุเอาไว้ในหลอดหรือแท่งพลาสติกเล็ก ๆ ขนาดเท่าไม้จิ้มฟันชนิดกลม นำมาฝังเข้าไปที่ใต้ผิวหนังบริเวณใต้ท้องแขนด้านที่ไม่ถนัด
ฮอร์โมนจะค่อย ๆ ซึมผ่านออกมาจากแท่งยาเข้าสู่ร่างกายและไปยับยั้งการเจริญเติบโตของฟองไข่
ส่งผลทำให้ไม่มีการตกไข่ จึงช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้
ยาสามารถออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้นาน 3 ปี หรือ 5 ปี
ตามชนิดของยาฝังคุมกำเนิด
ข้อบ่งชี้
ผู้ที่ลืมรับประทานยาบ่อยๆ รวมทั้งยาเม็ดคุมกำเนิด
ต้องการคุมกำเนิดในระยะเวลาประมาณ 3-5 ปี
ข้อห้ามในการใช้การคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น กำลังให้นมบุตร
ชนิด
1 หลอด
คุมกำเนิดได้นาน 3 ปี (Implanon)
ฮอร์โมน Etonogestrel 68 มิลลิกรัม
ยาฝังจะค่อย ๆ ปล่อยฮอร์โมนออกมาวันละ 70-60 ไมโครกรัม
2 หลอด
คุมกำเนิดได้นาน 5 ปี (Jadelle)
ฮอร์โมน Levonorgestrel 75 มิลลิกรัม
ปล่อยฮอร์โมนออกมาวันละ 100-40 ไมโครกรัม
ระดับฮอร์โมนที่ปล่อยออกมาจะสูงในช่วงแรก ๆ แล้วจะค่อย ๆ ลดลงจนคงที่ในระยะเวลาต่อมา
วิธีฝังยา
ติดต่อขอรับบริการกับทางโรงพยาบาลที่สะดวกได้ทันที
ขั้นตอน
ใช้เข็มเปิดแผลและสอดใส่แท่งที่มีหลอดยาบรรจุอยู่เข้าไปในเข็ม
เมื่อหลอดยาเข้าไปใต้ผิวหนังเรียบร้อยแล้วก็จะนำเข็มและแท่งนำหลอดยาออกมา
3.ทำการปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ตามด้วยผ้าพันแผลพันทับอีกชั้นหนึ่ง
1.แพทย์จะทำความสะอาดผิวหนังด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อแล้วฉีดยาชาเฉพาะที่ไปที่บริเวณใต้ท้องแขนที่จะฝังยาเข้าไป
แพทย์ผู้ที่ทำการฝังยาจะลองจับบริเวณที่ฝังเพื่อตรวจสอบตำแหน่งของยาที่ฝังเข้าไป หรือหากมีความจำเป็นอาจต้องทำ อัลตราซาวด์หรือเอกซเรย์เพื่อยืนยันว่ายาฝังคุมกำเนิดได้ถูกฝังเอาไว้อย่างถูกต้อง
เมื่อผ่านไป 24 ชั่วโมง ผู้เข้ารับการฝังยาคุมกำเนิดสามารถนำผ้าพันแผลออกได้ แต่ยังคงเหลือพลาสเตอร์ปิดแผลเอาไว้
ดูแลพลาสเตอร์ให้สะอาด เป็นเวลา 3-5 วัน แล้วจึงนำออกได้
ควรรับการฝังยาในช่วง 5 วันแรกของรอบเดือน
เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้กำลังตั้งครรภ์และยาที่ฝังจะมีผลในทันที
คำแนะนำหลังทำ
.
เมื่อครบกำหนดก็ควรนำออกแล้วทำการฝังเข้าไปใหม่เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์
สำหรับผู้ที่ฝังยาแล้วหากมีอาการปวดไมเกรน อาการของโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดในสมอง ความดันโลหิตสูง ดีซ่าน หรือเกิดภาวะซึมเศร้า แพทย์อาจแนะนำให้นำยาฝังคุมกำเนิดออก
ผู้ที่ต้องการนำออกก็สามารถติดต่อโรงพยาบาลได้ทันที
อาการข้างเคียง
ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มีเลือดออกกะปริบกะปรอย และอาจจะลดน้อยลงหลังฝังยาไปแล้วประมาณ 6 เดือน
อาการข้างเคียงที่อาจพบได้ แต่ไม่บ่อย
น้ำหนักตัวเพิ่ม
เป็นสิว
ปวดศีรษะ
ข้อดี
ไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ หรือปัญหาการลืมรับประทานยาคุมกำเนิด
หลังจากที่แท้งบุตร ทำแท้ง คลอดบุตร หรือระหว่างที่ให้นมบุตร สามารถฝังยาคุมกำเนิดได้ทันทีและไม่เป็นอันตราย
ช่วยยับยั้งการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือการมีเพศสัมพันธ์
ใช้ได้กับผู้ที่ไม่สามารถใช้ยาคุมกำเนิดแบบเม็ดซึ่งมีเอสโทรเจน (Oestrogen) เป็นส่วนประกอบ
ข้อเสีย
ในขั้นตอนฝังยาหรือนำยาออกจะต้องฉีดยาชาเฉพาะที่
อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
อาจมีประจำเดือนที่มากขึ้นหรือมาถี่ขึ้น
มีประจำเดือนมาไม่ตรงเวลาหรือมาน้อย
ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
ข้อห้ามการใช้
มีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม
อาจกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งลุกลามแพร่กระจาย
มีเลือดออกตามอวัยวะต่างๆที่ไม่ทราบสาเหตุ
อาจกระตุ้นให้เลือดออกมากขึ้น
โรคตับ
อาจส่งผลให้เกิดตับอักเสบเพิ่มขึ้นได้
มีภาวะเลือดออกง่ายหยุดยาก
อาจรบกวนการทำงานของเกล็ดเลือด
การทำหมัน
การทำหมันชาย
(Male surgical sterilization)
การคุมกำเนิดถาวรโดยทำการผูกและตัดหลอด/ท่อนำอสุจิ (สเปิร์ม/Sperm) ป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิจากอัณฑะเคลื่อนมายังถุงพักเชื้ออสุจิ
ทำให้น้ำอสุจิที่หลั่งออกมาไม่มีตัวอสุจิ จึงทำให้ไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้นการทำหมันชาย
วิธีการทำ
การใช้เครื่องมือเจาะบริเวณผิวหนังเพื่อหาหลอดนำอสุจิจากนั้นทำการผูก และตัดหลอดนำอสุจิ ทั้งสองข้าง ซึ่งวิธีนี้ แผลมีขนาดเล็ก จึงไม่จำเป็นต้องเย็บปิดแผล
การใช้มีดกรีดเปิดผิวหนังบริเวณถุงอัณฑะ เหนือหลอดนำน้ำเชื้ออสุจิ 1-2 แผล ขาดประมาณ 1 ซม. ทำการผูกและตัดหลอดน้ำเชื้ออสุจิทั้ง 2 ข้าง จากนั้นเย็บปิดผิวหนังที่กรีด
การปฏิบัติตัวหลังทำหมัน
เว้นการยกของหนัก หรือการออกกำลังกายอย่างหนักหลังผ่าตัดอย่างน้อย 24-48 ชม.
งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 7 วัน เนื่องจากหลังผ่าตัด จะไม่เป็นหมันทันที จึงควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย เช่น ถุงยางอนามัยเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน หรือจนกว่าได้รับการตรวจน้ำเชื้อยืนยันว่าไม่พบตัวอสุจิ
ห้ามมิให้แผลผ่าตัดถูกน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน
ข้อจำกัด
ผู้ให้การผ่าตัดต้องเป็นผู้ที่มีความชำนาญได้รับการฝึกฝนอย่างดี
ภาวะแทรกซ้อน (ผลข้างเคียง)
ภาวะปวดบวม
มีลิ่มเลือดคั่งบริเวณถุงอัณฑะ (พบได้น้อย)
มีการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด
ปวดหน่วงเรื้อรังที่อัณฑะ จากความดันที่เพิ่มขึ้นภายในหลอดนำอสุจิ
ไม่ป้องกันโรคติดต่อ/โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
ไม่เป็นหมันทันทีหลังผ่าตัด ต้องรอนานประมาณ 3 เดือน
ข้อดี
ทำได้ง่าย ใช้เวลาน้อย ไม่จำเป็นต้องใช้ยาดมสลบ
ค่าใช้จ่ายต่ำ
ป้องกันการตั้งครรภ์สูงกว่าการทำหมันหญิง
ผ่าตัดครั้งเดียว สามารถคุมกำเนิดได้ตลอดชีวิต
ไม่มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศของเพศชาย
ไม่มีผลทำให้พละกำลังการทำงานหนักตามปกติลดลง
ไม่มีผลต่อการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งอัณฑะ
ข้อห้ามของการทำหมัน
ไม่มีภาวะแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
ช่วงเวลาที่ทำผ่าตัดต้องไม่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และไม่มีการติดเชื้อบริเวณถุงอัณฑะ
ต้องการมีบุตรเพิ่มอีกในอนาคต
การทำหมันหญิง
(Tubal ligation)
ป้องกันไม่ให้ไข่และอสุจิเดินทางมาปฏิสนธิกันในท่อนำไข่
ข้อบ่งชี้
มีโรคประจำตัวที่อาจมีผลต่อการตั้งครรภ์
โรคหัวใจ
เบาหวาน
ความดันโลหิตสูง
ไต
โรคทางพันธุกรรม
โรคจิต ปัญญาอ่อน
มีบุตรเพียงพออย่างน้อย 2 คน และบุตรมีสุขภาพดี
การทำให้ท่อนำไข่ตีบตันทั้ง 2 ข้าง ด้วยวิธีการผูกและตัดท่อนำไข่ (Tubal ligation or tubal resection TR)
วิธีการทำ
.
ทำหมันแห้ง
การผ่าตัดผ่านกล้อง
ข้อจำกัด
ต้องดมยาสลบ
ใส่ก๊าซในช่องท้องระหว่างการผ่าตัด
ผู้ป่วยโรคหัวใจหรือมีภาวะผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิต ไม่ควรทำ
อันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่ออวัยวะข้างเคียงในกรณีที่ใช้จี้ไฟฟ้า
ใช้จี้ไฟฟ้าจี้ท่อนำไข่ร่วมกับตัดท่อนำไข่ทั้งสองข้างออกบางส่วนหรืออาจใช้อุปกรณ์รัดท่อนำไข่ทั้งสองข้าง
การผ่าตัดหน้าท้อง
หาท่อนำไข่เพื่อทำการผูกและตัดท่อนำไข่บางส่วนออกทั้ง 2 ข้าง
ลงแผลผ่าตัดบริเวณเหนือหัวหน่าว
การทำหมันในระยะที่ไม่ใช่ 6 สัปดาห์หลังคลอด
ทำหมันเปียก
ไม่มีผลต่อน้ำนมมารดา
ทำได้ง่าย
การผูกท่อนำไข่ และตัดท่อนำไข่บางส่วนออกทั้งสองข้าง
ทำหลังคลอดประมาณ 24-48 ชั่วโมง
คำแนะนำหลังทำ
นอนพัก 2-3 ชั่วโมง
ทำผ่าตัดทางหน้าท้อง ไม่เปิดแผลและล้างแผลเอง จนกว่าจะตัดไหมประมาน 5-7 วัน
หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำและรับประทานอาหารจนกว่าจะหายจากอาการมึนงงหรือง่วงซึม
ทำงานเบาๆได้ตามปกติ งดทำงานหนัก 1 สัปดาห์
ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ใน10 วันแรก เพราะอาจทำให้ไหมที่ผูกหลุดได้
สังเกตอาการผิดปกติที่ต้องรีบมาพบแพทย์
การอักเสบติดเชื้อ
เลือดออก
มีไข้สูง
ปวดท้องมาก
ผลข้างเคียง
พบอาการแพ้ยาชา ยาดมสลบ
ปัญหาต่อระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจในกรณีได้รับการดมยาสลบ
อาการปวดท้องน้อยจากการมีพังผืดบริเวณที่ตัดผูกท่อนำไข่จะเกิดขึ้นในบางราย
อันตรายต่ออวัยวะข้างเคียง โดยอาจได้รับบาดเจ็บร่วมด้วยได้
กระเพาะปัสสาวะ
ลำไส้
มดลูก
ข้อดี
เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบถาวรที่มีประสิทธิภาพสูง
ไม่มีผลต่อการให้นมบุตร
ไม่มีภาวะแทรกซ้อนหรือผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
ความสะดวก ไม่ต้องมารับบริการที่คลินิกวางแผนครอบครัวบ่อยๆเพื่อรับยาหรืออุปกรณ์คุมกำเนิด
ไม่มีผลต่อการมีเพศสัมพันธ์
ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากยาฮอร์โมนคุมกำเนิด
ข้อเสีย
ผ่าตัดในห้องผ่าตัด โดยบุคลากรที่ดีรับการฝึกฝนมา จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือที่เหมาะสม
อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด
เมื่อเทียบกับการทำหมันชาย จะเสียค่าใช้จ่ายสูงกว่า
การผ่าตัดต่อหมันทำได้ยาก เสียค่าใช้จ่ายสูงและไม่ประสบผลสำเร็จในทุกราย
ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์รวมทั้งเชื้อ HIV ได้
ข้อห้ามในการทำ
ต้องการมีบุตรอีกในอนาคต
มีการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหน้าท้องบริเวณที่จะลงแผลผ่าตัด
มีพังผืดในช่องท้องมาก
ผู้ที่เข้ารับการบริการต้องไม่มีภาวะแข็งตัวของเลือดผิดปกติ