Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิวัฒนาการและทฤษฎีเกี่ยวกับการบริหาร (ทฤษฎีหารบริหารยุคนีโอคลาสิก…
วิวัฒนาการและทฤษฎีเกี่ยวกับการบริหาร
ทฤษฎีการบริหารแบบนีโอคลาสิกหรือดั้งเดิม
1.ทฤษฎีการบริหารเชิงวิทยาศาสตร์
1.2 เฮนรี่ แก๊นต์
นำเทคนิคจัดตารางมาใช้
เวลาในอนาคต = แนวนอน
งานที่ปฏิบัติ = แนวตั้ง
แผนภูมิ
ความก้าวหน้างานประเภทเดียวกัน
ดัดแปลง เป็น ตาข่าย
ใช้ลูกศรเป็นตัวเชื่อมโยง = ทิศทางและเวลาเลิกงาน
1.3 แฟรงค์ บังเกอร์ กิลเบรธ
แบ่งงานตามความชำนาญ
เช่น วัดสัญญาณชีพ
1.1 เฟรดเดอริคควินสโลว์ เทเลอร์
ออกแบบงานและจัดสิ่งจูงใจใหม่ๆ
วางแผนงานให้
เลือกคนฉลาดฝึกอบรม
ลองผิดลองถุก
แบ่งงานผู้บริหารและคนงาน
1.4 ลิเลียน กิลเบรธ
ร่วมมือศึกษาการบริหารโดยใช้หลักวิทยาศาสตร์
ตั้งปัญหาและหาแนวทาง
สู่จุดหมายที่ต้องการ
2.ทฤษฎีการจัดการเชิงบริหาร
2.1 เฮ็นรี่ ฟาโยล
ระบุหน้าที่พื้นฐาน
วางแผน
จัดองค์การ
บังคับบัญชาและสั่งการ
ประสานงาน
ควบคุม
เช่น แบ่งงานตามความถนัด
2.2 ลูเทอร์ กูลิค และลินดอลล์ เออร์วิค
เพิ่มกระบวนการเป็น 7 ประการ
3.ทฤษฎีระบบราชการ
แมกซ์ วีเบอร์
สร้างแนวทางการดำเนินการบริหารและระบบราชการ
ทำหน้าที่ที่กำหนดไว้
การจ้างงานใช้หลักคุณสมบัติทางวิชาชีพ
ความก้าวหน้า
กำหนดกฎเกณฑ์
จัดตำแหน่งหน้าที่ตามสายบังคับบัญชาระดับสูงมาต่ำ
อำนาจหน้าที่
แบ่งงานกันทำ
ทฤษฎีหารบริหารยุคนีโอคลาสิก
แมคเกรเกอร์
ทฤษฎี X
ขี้เกียจ
ต้องถูกบังคับ
ไม่มีความรับผิดชอบ
ทฤษฎี y
ร่วมมือ
ขยัน รับผิดชอบ
มีความคิดด้วยตนเองถ้าได้รับการจูงใจที่ถูกต้อง
พยายามพัฒนาตนเอง
เอลตัน เมโย
ทุ่มเทสนใจปัญหาและความต้องการกของคนที่เกี่ยวข้องกับงาน
เช่น ให้อิสระแก่พยาบาลจัดให้มีสัมพันธภาพที่ดีระหว่างเพื่อนร่วมงาน หยืดหยุ่นกฎระเบียบการทำงาน
วิลเลี่ยม กูซี่
ให้ความสำคัญกับลกุ่มไม่ใช่ตัวบุคคล
แนวคิด
ร่วมคิดร่วมทำ
ร่วมแก้ปัญหา
มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ร่วมหาวิธีการที่เหมาะสม
เชสเตอร์ บาร์นาร์ด
การร่วมแรงร่วมใจ
สิ่งสำคัญ คือ การติดต่อสื่อสาร
อับราฮัม มาสโลว์
ลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์
จากต่ำไปสูง
มนุษย์มีความต้องการตลอดเวลาและไม่สิ้นสุด
เฟรเดริค เฮิร์ซเบิร์ก
ให้ความสำคัญ ความต้องการของมนุษย์
1.แรงจูงใจ
ปัจจัยภายใน
2.ปัจจัยค้ำจุน
ปัจจัยภายนอก
การบริหารสมัยใหม่
ทฤษฎีระบบ
ระบบเปิด
พึ่งพาสิ่งแวดล้อม
ระบบปิด
พึ่งตนเองได้
ปัจจัย
กระบวนการแปรสภาพ
ปัจจัยนำเข้า
ผลผลิต
ข้อมูลย้อนกลับ
สิ่งแวดล้อม
ทฤษฎีบริหารตามสถานการณ์
ฟีดเลอร์
ความเป็นผู้นำตามสถานการณ์
เช่น อำนาจหน้าที่ตามตำแหน่ง
วรูม และ เยตัน
เปิดโอกาสให้ผู้ตามมีส่วนร่วม
โรเบิร์ต เฮาส์
ผู้นำขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ความพอใจของงานที่ทำ
ผู้นำให้ความสำคัญทั้งคนและงานในเวลาเดียวกันโดยใช้แรงจูงใจ
เฮร์เซย์และแบลนชาร์ด
ทฤษฎี "วงจรชีวิต"
ความพร้อมของผู้ตาม
R1 = ไม่มีความสามารถ ไม่เต็มใจที่จะทำ ความพร้อมต่ำ
R2 = ไม่มีความสามารถ เต็มใจที่จะทำ ความพร้อมปานกลาง
R3 = มีความสามารถ แต่ไม่เต็มใจที่จะทำ ความพร้อมปานกลาง
R4 = มีความสามารถ เต็มใจที่จะทำ ความพร้อมสูง
ทฤษฎีการบริหารเชิงปริมาณ
แนวคิด
ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร
ฝ่ายเภสัชกรรม แผนกการเงิน แผนกทะเบียน
การจัดการปฏิบัติดการ
เช่น วิเคราะห์ว่ามีปัญหาที่ต้องการดูแลจากพยาบาลอะไรพบบ่อยที่สุด
บริหารศาสตร์
ใช้สำรวจลักษณะงานและปริมาณเวลา
ทฤษฎี 7's
อุปกรณ์แห่งความสำเร็จ
ระบบ
ระบบการวางแผน การประเมินผล
กลยุทธ์
มีโครงการไว้เด่นชัด
ค่านิยมร่วม
มีการแบ่งงาน
เนื้อหาแห่งความสำเร็จ
แบบการบริหาร
บุคลากร
ทักษะ
ค่านิยมร่วม
บริหารคุณภาพทั้งองค์การ
รื้อปรับระบบ
มีคุรภาพ ค่าใช้จ่ายถูก รวดเร็ว ให้ความสำคัญต่อกระบวนการทำงาน
องค์การสมัยใหม่
องค์การสมรรถนะสูง
ตั้งเป้าหมายท้าทาย
มีค่านิยมร่วมกัน
มุ่งเน้นที่ยุทธศาศตร์ และทำให้ทั่วทั้งองค์กรดำเนินงานในทิศทางเดียวกัน
องค์กรแห่งการเรียนรู้
เรียนรู้เร็วกว่าคู่แข่งในการเปลี่ยนแปลงปละถูกแรงกดดันให้เปลี่ยนแปลง
องค์การยุคหลังสมัยใหม่
ทฤษฎีไร้ระเบียบ
ศึกษากฎเกณฑ์และคุณสมบัติของปรากฏการณ์ทางวัตถุ ในทางฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา
5S Model
SMOOTH = ความร่วมมือไร้ควาขัดแย้ง
SIMPLIFY = ทำเรื่องยากให้ง่ายและรวดเร็ว
SMILE = ยิ้มแย้ม
SMART = ฉลาด
SMALL = จิ๋วแต่แจ๋ว
องค์การเสมือนจริง
เชื่อมโยงบุคลากรห่างไกลให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน