Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิเคราะห์ขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา (วิเคราะห์ด้านเนื้อหา (ตัวละคร…
วิเคราะห์ขุนช้างขุนแผน
ตอน ขุนช้างถวายฎีกา
วิเคราะห์ด้านเนื้อหา
โครงเรื่อง
รื่องขุนช้างขุนแผนนี้ เป็นนิยายพื้นบ้านของสุพรรณบุรี ที่แต่งขึ้นจากเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ซึ่งมีหลักฐานอยู่ ในหนังสือคำให้การชาวกรุงเก่า โดยแต่งเป็นบทกลอนสำหรับขับเสภา เมื่อมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ที่มีผู้แต่งไว้ตั้งแต่งสมัยกรุงศรีอยุธยานั้น เหลืออยู่เพียงบางตอนเท่านั้น
ตัวละคร
1.นางวันทอง
นางวันทองสองใจเป็นเหตุที่ทำให้ทุกคนทะเลาะกันและสุดท้ายนางวันทองก็ไม่เลือกที่จะอยู่กับใครเลยเพราะว่ารักทั้งคู่ จนถูกพระพันวษาประหารเพราะตัวนางเอง
จะเห็นได้จากบทประพันธ์
ความรักขุนแผนก็แสนรัก ด้วยร่วมยากมานักไม่เดียดฉันท์
สู้ลำบากบุกป่ามาด้วยกัน สารพันอดออมถนอมใจ
ขุนช้างแต่อยู่ด้วยกันมา คำหนักหาได้ว่าให้เคืองไม่
เงินทองกองไว้มิให้ใคร ข้าไทใช้สอยเหมือนของตัว (หน้า38)
เร่งเร็วเหวยพระยายมราช ไปฟันฟาดเสียให้มันเป็นผี
อกเอาขวานผ่าอย่าปราณี อย่าให้มีโลหิตติดดินกู
เอาใบตองรองไว้ให้หมากิน ตกดินอีปรีย์กาลีอยู่
ฟันให้หญิงชายทั้งหลายดู สั่งเสร็จเสด็จสู่ปราสาทชัย (หน้า39)
2.ขุนช้าง
เป็นคนที่รักเมียมาก เพราะยอมที่จะลงไปในน้ำเพื่อถวายฎีกาแก่พระพันวษา เพื่อชิงตัวนางวันทองกลับมา
จะเห็นได้จากบทประพันธ์
เข้าตรงบโทนอันต้นกัญญา เพื่อนโขกลงด้วยกะลาว่าผีเสื้อ
มหาดเล็กอยู่งานพัดพลัดตกเรือ ร้องว่าเสือตัวใหญ่ว่ายน้ำมา
ขุนช้างดึงดื้อมือยึดเรือ มิใช่เสือกนะหม่อมฉานล้านเกศา
สู้ตายขอถวายซึ่งฎีกา แค้นเหลือปัญญาจะทานทน (หน้า30)
3.ขุนแผน ถนัดในด้านไสยศาสตร์ รักนางวันทองมากแต่เจ้าชู้
จะเห็นได้จากบทประพันธ์
จะกล่าวถึงขุนแผนแสนสนิท เรืองฤทธิ์ลือจบพิภพไหว
อยู่บ้านสุขเกษมเปรมใจ สมสนิทพิสมัยด้วยสองนาง
ลาวทองกับเจ้าแก้วกิริยา ปรนนิบัติวัตถาไม่ห่างกาย
เพลิดเพลินจำเริญใจไม่เว้นวาง คืนนั้นในกลางซึ่งราตรี (หน้า31)
4.จมื่นไวย ถนัดด้านไสยศาสตร์เหมือนพ่อ และรักแม่มากจึงจะใช้ไสยศาสตร์เพื่อพาแม่กลับบ้านไป
จะเห็นได้จากบทประพันธ์
หอมหวนอวลอบบุปผชาติ เบิกบานก้านกลาดกิ่งไสว
เรณูฟูร่อนขจรใจ ย่างท้าวก้าวไปไม่โครมคราม
ข้าไทนอนหลับลงทับกัน สะเดาะกลอนถอนลั่นถึงชั้นสาม
กระจกฉากหลากสลับวับแวมวาม อร่ามแสงโคมแก้วแววจับตา (หน้า24)
5.สมเด็จพระพันวษา เป็นผู้รับถวายฎีกาและเป็นคนเด็ดขาดเพราะเป็นผู้สั่งประหารนางวันทอง
จะเห็นได้จากบทประพันธ์
เร่งเร็วเหวยพระยายมราช ไปฟันฟาดให้เสียมันเป็นผี
อกเอาขวานผ่าอย่าปรานี อย่าให้มีโลหิตติดดินกู
เอาใบตองรองไว้ให้หมากิน ตกดินจะอัปรีย์กาลีอยู่
ฟันให้หญิงชายทั้งหลายดู สั่งเสร็จเสด็จสู่ปราสาทชัย (หน้า39)
กลวิธีในการแต่ง
ใช้กลอนเสภา
ลักษณะคำประพันธ์กลอนเสภาเป็นกลอนสุภาพ เสภาเป็นกลอนขั้นเล่าเรื่องอย่างเล่านิทานจึงใช้คำมากเพื่อบรรจุข้อความให้ชัดเจนแก่ผู้ฟัง และมุ่งเอาการขับได้ ไพเราะเป็นสำคัญ สัมผัสของคำประพันธ์ คือ คำสุดท้ายของวรรคต้น ส่งสัมผัสไปยังคำใดคำหนึ่งใน ๕ คำแรกของวรรคหลังสัมผัสวรรคอื่นและสัมผัสระหว่างบทเหมือนกลอนสุภาพ
วิเคราะห์ด้านวรรณศิลป์
การบรรยายโวหาร (เสาวรจนีย์)
จะเห็นได้จากบทประพันธ์
ฟ้าขาวดาวเด่นดวงสว่าง จันทร์กระจ่างทรงกลดหมดมฆสิ้น
จึงเซ่นเหล้าข้าวปลาให้พรายกิน เสกขมิ้นว่านยาเข้าทาตัว (หน้า23)
ใช้อารมณ์ ความโกรธแค้น (พิโรธวาทัง)
จะเห็นได้จากบทประพันธ์
ยิ่งคิดเดือดดาลทะยานใจ ฉวยได้กระดานชนวนมา
ร่างฟ้องท่องเทียบให้เรียบร้อย ถ้อยคำถี่ถ้วนเป็นหนักหนา (หน้า30)
อุปมาโวหาร
จะเห็นได้จากบทประพันธ์
อีวันทองตัวมันเหมือนแก้ว ถ้าตัดโคนขาดแล้วก็ใบเหี่ยว
ใครจะควรสู่สมอยู่กลมเกลียว ให้เด็ดเดี่ยวรู้กันแต่วันนี้ (หน้า38)
วิเคราะห์ด้านสังคม
เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ แม้จะนับถือพุทธศาสนาแต่ก็ยังเชื่อเรื่องภูตผีปีศาจ คาถาอาคม เรื่องโชคชะตาดวงของคน การพึ่งพาไสยศาสตร์ ให้ประสบความสำเร็จตามใจปรารถนาของตน
จะเห็นได้จากบทประพันธ์
หอมหวนอวลอบบุปผชาติ เบิกบานก้านกลาดกิ่งไสว
เรณูฟูร่อนขจรใจ ย่างท้าวก้าวไปไม่โครมคราม
ข้าไทนอนหลับลงทับกัน สะเดาะกลอนถอนลั่นถึงชั้นสาม
กระจกฉากหลากสลับวับแวมวาม อร่ามแสงโคมแก้วแววจับตา (หน้า24)
เชื่อในเรื่องความฝัน ว่าฝันร้ายแล้วจะมีสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้น
จะเห็นได้จากบทประพันธ์
ครานั้นขุนแผนแสนสนิท ฟังความตามนิมิตก็ใจหาย
ครั้งนี้น่าจะมีอันตราย ฝันร้านสาหัสตัดตำรา
พิเคราะห์ดูทั้งยามอัฐกาล ก็บันดาลฤกษ์แรงเป็นหนักหนา
มิรู้ที่แถลงแจ้งกิจจา กอดเมียเมินหน้าน้ำตากระเด็น (หน้า34)
การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
การนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน คือ
ไม่ควรมีหลายสามี หรือหลายภรรยา
ควรรักเดียวใจเดียวและรักครอบครัว