Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ไตวายเฉียบพลัน (Acute kidney injury) (สาเหตุ (มีภาวะหัวใจล้มเหลว,…
ไตวายเฉียบพลัน (Acute kidney injury)
สาเหตุ
มีภาวะหัวใจล้มเหลว
หัวใจเต้นผิดปกติ
ได้รับยาขับปัสสาวะ
มีการติดเชื้อแบคทีเรีย
เสียน้ำจากการอาเจียน ท้องเสีย
มีนิ่วหรือเนื้องอกที่ไต กระเพาะปัสสาวะ
ท่อปัสสาวะ หรืออวัยวะในอุ้งเชิงกราน
จากการเสียเลือด
ได้รับสารพิษจากยาปฏิชีวนะ ยาเคมีบำบัด ยากลุ่ม NSAIDs
ความหมาย
เป็นภาวะที่ไตสูญเสียหน้าที่อย่างทันทีทันใด มีอัตราการกรองลดลงในระยะเวลาอันสั้น 1 ชั่วโมง ถึง 3 วัน มีผลทำให้เกิดของเสียคั่งในเลือด เช่น ยูเรียไนโตรเจนครีอะตินีน เป็นต้น
ขับปัสสาวะออกน้อยกว่า 400 มิลลิลิตร/วัน เรียกว่า ภาวะปัสสาวะน้อย (Oliguria) และหากปัสสาวะออกน้อยกว่า 100 มิลลิลิตร/วัน เรียกว่า ไม่มีปัสสาวะ (Anuria)
อาการ
เลือดออกในกระเพาะอาหาร ซึม ชัก หรือไม่รู้สึกตัว
อาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ปอดบวมน้ำ
มีของเสียคั่ง (Blood urea nitrogen และ Creatinine สูง) ทำให้มีอาการของภาวะยูรีเมีย ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เยื่อบุช่องปากอักเสบ ท้องผูก ท้องเสีย
มีโปแตสเซียมในเลือดสูง โซเดียมในเลือดต่ำ
มีปัสสาวะออกน้อยกว่า 400 มิลลิลิตรต่อวันอย่างทันทีทันใดหรือไม่มีปัสสาวะออกเลย
การรักษา
จำกัดปริมาณน้ำ จำกัดอาหารที่มีโปแตสเซียม เช่น ผัก ผลไม้ เป็นต้น
กำจัดโปแตสเซียมออกจากร่างกายโดยให้ Kayexalate ร่วมกับ Sorbitol เพื่อช่วยขับโปแตสเซียมออกทางอุจจาระ
ให้ Regular insulin (RI) + 50% Glucose ทาง IV ซึ่ง Insulin จะพา Glucose เข้าเซลล์ และนำ K+ ในเลือดได้อย่างรวดเร็ว
ให้การรักษาหรือภาวะที่เป็นสาเหตุและแก้ไขภาวะผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ให้ NaHCO3 ทาง IV ช่วยแก้ภาวะ Metabolic acidosis ช่วยให้ K+ เข้าเซลล์ได้มากขึ้น
ป้องกันการติดเชื้อโดยใช้หลัก Aseptic technique
การวินิจฉัยโรค
อาการหอบเหนื่อย คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
มีเลือดออกในทางเดินอาหาร
จากการตรวจร่างกายพบหลอดเลือดดำที่คอโป่ง
จากการตรวจปัสสาวะจะพบความถ่วงจำเพาะมีค่าคงที่หรือสูงขึ้น ออสโมลาลิตี้ 250-350 มิลลิออสโมล
จากประวัติมีการเสียเลือด
ตรวจเลือดจะพบค่า Blood urea nitrogen (BUN), Creatinine (Cr) สูงกว่าปกติ BUN : CR = 10 : 1 หรือต่ำกว่า
ค่าอิเล็กโทรไลต์ พบค่า HCO3 ต่ำ
ตรวจจำนวนเม็ดเลือด (Complete blood count; CBC) พบระดับฮีมาโตคริท และระดับฮีโมโกลบิลต่ำ
พยาธิสรีรภาพ
โลหิตเป็นพิษเนื่องจากมีไนโตรเจนหรือมียูเรียในเลือดหรือมีของเสียไนโตรเจนสูงในเลือด (Azotemia) เมื่อเลือดไปเลี้ยงไตถูกขัดขวาง ทำให้นำออกซิเจนต่ำและขาดเลือดทำให้ไตเสียหน้าที่ ท่อไตมีออกซิเจนไปเลี้ยงลดลง Azotemia เป็นผลที่ตามมาของเลือดไปเลี้ยงไตลดลง ทำให้อัตราการกรองของหน่วยกรองปัสสาวะ (Glomerular filtration rate; GFR) ลดลง
ระบบประสารทอัตโนมัติเสียหน้าที่ ติดเชื้อ มีก้อนเนื้องอก ท่อไตอุดตันทำให้ปัสสาวะจากไตไปสู่กระเพาะปัสสาวะน้อยลง ซึ่งเกิดจากมีก้อนเลือดอุดตัน มีนิ่ว บวมหรืออักเสบ มีเนื้อตายที่ไต มีพังผืดหรือมีเลือดออกด้านหลังเยื่อบุช่องท้อง
Prerenal failure เกิดขึ้นตามมาเมื่อมีเลือดไปเลี้ยงไตลดลง เช่น ภาวะปริมาตรเลือดลดลง ความดันเลือดต่ำ หลอดเลือดหดตัวหรือเลือดที่บีบออกจากหัวใจไปเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอ
ไตวายทั้งสามชนิดนี้จะมีปัสสาวะน้อย (Oliguric phase) มีปัสสาวะน้อยกว่า 30 มิลลิลิตรต่อชั่วโมง หรือ 400 มิลลิลิตรต่อวัน 2-3 วันต่อสัปดาห์ ระบบยูเรีย ครีอะตินิน และยูริกในซีรัมสูง การเสียสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ มีอาการท่อไตและเซลล์ภายในบวม ปัสสาวะมาก (Diuretic phase) ระยะนี้ไม่สามารถเก็บโซเดียมและน้ำไว้ มีอาการปัสสาวะมากกว่า 400 มิลลิลิตรต่อ 24 ชั่วโมง เป็นสาเหตุให้ขาดน้ำและเสียสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ ในเลือดมี BUN สูง ต่อมามีการสูญเสียโปแตสเซียม โซเดียม และน้ำ ระยะนี้อาจมีอาการเป็นวันหรือเป็นสัปดาห์ และระยะฟื้นกลับคืนสู่สภาพเดิม (Recovery phase)
เพิ่มการดูดซึมโซเดียมและน้ำของท่อไต ซึ่ง GFR ที่ลดลงเป็นสาเหตุทำให้เกิดความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์และภาวะเลือดเป็นกรดเนื่องจากความผิดปกติของการเผาผลาญสารอาหาร Intrarenal failure; Intrinsic renal failure; Parenchymal renal failure ทำให้ตัวกรองของไตเสียหน้าที่ และแบ่งเป็น Nephrotoxic, Inflammatory หรือ Ischemic Postrenal failure